ทส.ชงผุดโกดังเก็บไม้ของกลาง 20 แห่งทั่วประเทศ คาดใช้ 100 ล้าน

เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน นายประลอง ดำรงค์ไทย ผู้ตรวจราชการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานประชุมการจัดการไม้ของกลางที่อยู่ในการดูแลของหน่วยงานต่างๆ ใน ทส. ซึ่งมีตัวแทนจากกรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เข้าร่วมหารือ ทั้งนี้ ที่ประชุม สรุปว่าต้องแบ่งไม้ของกลางเป็น 2 ประเภท คือ 1.ไม้มีค่า 6 ชนิด ได้แก่ สัก พะยูง ประดู่ ชิงชัน มะค่าโมง และไม้แดง 2.ไม้ทั่วไป

“ในส่วนของไม้มีค่า 6 ชนิดนั้น หากคดีสิ้นสุดแล้วจะมีคณะกรรมการบริหารจัดการไม้มีค่าเพื่อประโยชน์ของแผ่นดินที่มีปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิจารณาดำเนินการใช้ประโยชน์ต่อไป ซึ่งที่ผ่านมา คือ การนำไปก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ไม้มีค่า อย่างไรก็ตาม พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการ ทส. มีความห่วงใยในส่วนไม้ของกลางที่อยู่ระหว่างการดำเนินคดี ที่จัดเก็บอยู่ตามหน่วยป่าไม้ต่างๆ ทั้งในความรับผิดชอบของกรมอุทยานแห่งชาติฯ และกรมป่าไม้ บางส่วนก็ผุพัง เพราะกองอยู่กลางแจ้ง และเสี่ยงต่อการถูกลักขโมย ซึ่งบางพื้นที่ที่มีไม้มีค่าของกลางจำนวนมากได้มีการสร้างโกดังจัดเก็บแล้ว เช่น กรมป่าไม้ ก่อสร้างที่ จ.ลำปาง กรมอุทยานแห่งชาติฯ ก่อสร้างที่อุทยานฯ ทับลาน จ.ปราจีนบุรี และเตรียมก่อสร้างที่อุทยานฯ ภูจองนายอย จ.อุบลราชธานี และอุทยานฯ ภูผายล จ.สกลนคร เป็นต้น” นายประลองกล่าว

นายประลองกล่าวอีกว่า ที่ประชุมเห็นว่าควรมีการก่อสร้างโกดังจัดเก็บไม้ของกลางทั่วประเทศ 15-20 แห่ง จึงจะเพียงพอสำหรับการเก็บรักษาไม้ของกลางที่มีอยู่กว่า 2 หมื่นลูกบาศก์เมตร โดยจะเสนอผู้บริหารระดับสูงเสนอของบประมาณดำเนินการก่อสร้างโกดังเก็บรักษาไม้ของกลางที่อยู่ระหว่างดำเนินคดี ทั้งนี้ ที่ผ่านมาใช้งบฯ ในการก่อสร้างโกดังเก็บรักษาไม้แห่งละ 6 ล้านบาท พร้อมทั้งมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดและระบบรักษาความปลอดภัยด้วย ดังนั้นคาดว่ารอบนี้ต้องใช้งบ 100 ล้านบาท

“ในส่วนไม้ของกลางประเภทอื่นที่ไม่ใช่ไม้มีค่า 6 ชนิด หากคดีสิ้นสุด ซึ่งต้องใช้เวลา 1-5 ปี มีระเบียบของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้สามารถนำออกขายได้ แต่เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา อาจเสนอขายให้องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) นำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์วางจำหน่าย โดยต้องมีการตั้งหลักเกณฑ์การขาย เพื่อไม่ให้ไม้กลับเข้าสู่วงจรการทำผิดกฎหมายอย่างรัดกุม โดยจะนำข้อสรุปทั้งหมดเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการ ทส.ต่อไป” นายประลองกล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image