รองผู้ว่าฯกทม.พ้อ ‘วงจรปิด’ ไม่เวิร์ก-เมืองไม่พัฒนา เพราะไร้เงิน

เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน นายทวีศักดิ์ เลิศประพันธ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ปาฐกถาพิเศษเรื่อง “สมาร์ท ลีฟวิ่ง (Smart Living) เพื่อมหานครอัจริยะ” ในการแถลงข่าวจัดงาน “ซีเคียวเทค ไทยแลนด์ 2018” ภายใต้แนวคิด “สมาร์ทซิตี้ เซฟซิตี้” (Smart City Safe City) ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-10 พฤศจิกายน ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ว่า กรุงเทพมหานครมีประชากรราว 11 ล้านคน ประสบปัญหารถติด เพราะมีรถแล่นอยู่บนผิวถนนกว่า 9 ล้านคัน โดย 1 ครอบครัว จะมีรถยนต์ 4 คัน แต่มีช่องจราจรยาวเพียง 6,000 กิโลเมตร (กม.) และมีปัญหาความปลอดภัยในอาคาร และปัญหามลพิษ วันนี้ การพัฒนาเมืองสมัยใหม่เกิดจากการพัฒนาโดยเอกชน อาทิ การเชื่อมกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (ซีซีทีวี) กับผู้ประกอบการย่านราชประสงค์ ย่านสีลม ฯลฯ และสิ่งอยากเห็นคือ การพัฒนาข้อมูลผู้ป่วยให้เป็นฐานข้อมูลเดียวกันในโรงพยาบาล 135 แห่งทั่วกรุงเทพฯ ด้วย

“บางประเทศ เช่น สิงคโปร์ ใช้เทคโลยีแก้ปัญหามลภาวะด้วยการใช้เซ็นเซอร์ดักจับ ช่วยเปิดไฟ รดน้ำ ดูแลเมือง แต่ กรุงเทพฯ ไปไม่ถึงขั้นนั้น เพราะแค่ปัญหารถติดและปัญหาการเชื่อมซีซีทีวี กทม.ยังทำได้ไม่สมบูรณ์ ที่สำคัญต้องเตรียมรับมือกับภาวะผู้สูงอายุ ซึ่งขณะนี้มีผู้ลงทะเบียนแล้วราว 9.8 แสนคน แต่คาดว่า กรุงเทพฯ มีผู้สูงอายุถึง 2 ล้านคน และอีก 8 ปีข้างหน้าจะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 30” นายทวีศักดิ์ กล่าวและว่า กทม.มีซีซีทีวีเกือบ 6 หมื่นตัว แต่ยังเชื่อมต่อสัญญาณไวไฟและซิมการ์ดไม่ได้ เพราะไม่มีเงิน หลายบริษัทเข้าหา กทม.เพื่ออยากขายเทคโนโลยี และองค์ความรู้

Advertisement

นายทวีศักดิ์ กล่าวว่า สิ่งที่เมืองมีและเทคโนโลยีต้องการ คือ โครงสร้างพื้นฐาน เป็นสิ่งต้องใช้พัฒนานวัตกรรมและแพลตฟอร์ม แต่การประมูลคลื่น 1800 ทุกวันนี้ รัฐบาลมีรายได้เป็นหมื่นแสนล้านบาท โดยใช้โครงสร้างพื้นฐานของ กทม. แต่เมืองกลับไม่ได้อะไร ขณะที่ กทม.ซ่อมถนนปีละ 4-5 พันล้านบาท กทม.เคยขอใช้ข่ายของบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) เชื่อมระบบซีซีทีวี 5 ปี กทม.ต้องจ่าย 1.4 หมื่นล้านบาท หากจะเพิ่มกล้องและลูกเล่นต้องเพิ่มเงิน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image