ผู้อ่าน มติชน ระบุ สื่อมวลชน บางสื่อ รายงานข่าว “จ่าคลั่งกราดยิง” เกินกว่าเหตุ
การรายงานข่าวของสื่อต่างๆ ระหว่างเกิดเหตุจ่ากราดยิงที่นครราชสีมา เมื่อวันที่ 8-9 กุมภาพันธ์ นั้น
มติชนออนไลน์ ขอเชิญผู้อ่าน ร่วมแสดงความคิดเห็นว่า ท่านมีความคิดเห็นในเรื่องนี้ อย่างไร เป็นการรายงานข่าวเกินกว่าเหตุหรือไม่
1.เกินกว่าเหตุ
2.ไม่เกินกว่าเหตุ
ผลการเข้าร่วมแสดงความคิดเห็น พบว่า มีผู้ร่วมโหวต 1.9 พันโหวต ในจำนวนนี้ 67% ระบุว่า เกินกว่าเหตุ และ 33% ระบุว่า ไม่เกินกว่าเหตุ
สำหรับความคิดเห็นที่น่าสนใจ มีตัวอย่าง ต่อไปนี้
เกินกว่าเหตุ คือ รายงานไม่ตรงเหตุการณ์ นั่นคือเกินกว่าเหตุ เหตุเกิด 1 ไปบอก 2 แบบนั้นไม่ถูก แต่ถ้ารายงานตรงความเป็นจริง นั่นคือ ถูกต้อง จะโทษต้องไปโทษผู้บังคับบัญชาทหารและตำรวจ รู้อยู่แล้วว่าโจรเป็นใคร แต่งตัวแบบไหน อยู่ในห้าง ดันเสือกแสดงตัวเป็นทหาร เป็นตำรวจ เข้าไปจับ ย่อมรู้อยู่แล้วว่าโจรมันไม่คิดจะหนี ไม่คิดจะรอด เพราะเปิดเผยหน้า ไลฟ์สด ฆ่าคนไปสิบกว่าคน แทนที่จะหามือดี แต่งชาวบ้าน ลอบเข้าไปจัดการ สักสี่ห้าคน ปืนคนละกระบอกก็พอแล้ว เสียเวลาพาแม่มาเกลี้ยกล่อม แล้วมาปิดล้อมขนอาวุธเตรียมบุก ทำอย่างกับสงคราม โง่เซ่อวิเคราะห์สถานการณ์ไม่ออก แล้วมาโทษสื่อ
ไม่น่าจะเกินกว่าเหตุ ฟังจากนักข่าวที่เข้าร่วมอยู่ในเหตุการณ์เขาให้เสัมภาษณ์ ก็น่าเห็นใจ(ทุกกรณีที่จะป้องกันความเสียหายไม่ว่าฝ่ายใดได้สำคัญคืออย่าเพิ่งด่วนวิพากษ์วิจารณ์ก่อนจะทราบความจริงแต่ก็สุดวิสัยที่จะไปห้ามปรามใครได้
เกินเหตุ การทำงานของสื่อทำให้คนร้ายไหวตัวทัน รู้ช่องทางหลบหนีได้ ไม่ควรไลส์สดบอกสถานการณ์ น่าทำงานกับเงียบๆ
เฉพาะสื่อบางช่อง
อยากได้เกินกว่าเหตุ หรือปกปิดข้อมูลล่ะ สำหรับคนเสพข่าว
จริงๆก็ดีที่รายงาน เพียงแต่มีบางส่วนของงานเจ้าหน้าที่ หรือที่อยู่ผู้ประสบเหตุที่ไม่ควรเอามานำเสนอในขณะนั้น
ผมเข้าใจนะว่าสื่อต้องการขายข่าวาายงานข่าวอย่างฉับไว แต่ต้องมีความรอบคอบมากกว่านี้หลายครั้งที่ข่าวแต่ละสำนักรายงานออกมาไม่ตรงกัน อาจจะด้วยความเร่งรีบในการเสนอข่าวจึงขาดการตรวจสอบ และการรายงานข่าวบางครั้งก็ขาดการไตร่ตรอง ซึ่งจุดนี้ถือว่าเป็นอันตราย อีกอย่างเหตุการณ์ครั้งนี้น่าจะเป็นเพราะการประสานงานระหว่างเจ้าหน่าที่และสื่อไม่ดีหรือไม่เกิดขึ้น จึงไม่ซักซ้อมทำความเข้าใจกันก่อนที่จะนำเสนอ หากเจ้าหน้าที่ประสานงานว่าอย่าเพิ่งนำเสนอข้อมูลของผู้ที่ติดอยู่ในห้างเนื่องจากหวัานเกรงความปลอดภัยของผู้ที่ติดอยู่ ผมเชื่อว่าสื่อเองก็คงไม่นำเสนอในจุดนี้ ถือเป็นบทเรียนแล้วกันครับ ไม่อยากโทษฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
คำว่าเกินกว่าเหตุหรือไม่นั้นมันควรใช้กับคนรู้สึกสำนึกรู้ผิดชอบในการกระทำตัวเองขณะนั้น ตามข้อเท็จจริงโดยประวัติเขาไม่ใช่ผู้ร้ายโดยสันดาน ร้อยทั้งร้อยต้องประเมินว่าขณะที่เขากระทำความผิดนั้นเขาไม่สามารถควบคุมสติตัวเองได้ เหมือนคนปกติทั่วไปหรือหลุดโลก หรือบ้าคลัง จึงพอประมาณการณ์ว่าการกระทำของเขาเปรียบเสมือนคนบ้าคลังที่ขาดสำนึกรู้ผิดชอบในขณะที่ทำ จึงไม่สามารถนำมูลเหตุของการกระทำนั้นมาวินิจฉัยเจตนาที่กระทำนั้นว่าเกินกว่าเหตุหรือไม่
