กรณี “จ่าคลั่ง” สังหารประชาชนด้วยอาวุธสงคราม เมื่อวันที่ 8-9 ก.พ.ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 30 คน รวมผู้ก่อเหตุด้วย ท่านคิดว่า หลังเหตุการณ์ ควรตีแผ่เรื่องราวทั้งหมด เพื่อนำไปสรุปเป็นบทเรียน สำหรับป้องกันและรับมือเหตุร้ายในอนาคต หรือควรจะให้ผ่านๆไป ลืมๆไป ไม่ต้องพูดถึง โดยถือเป็นความทรงจำที่เลวร้ายที่ไม่ควรรื้อฟื้น
โดยผู้ที่เข้ามาตอบทางทวิตเตอร์มติชนออนไลน์ ตอบว่า “ควรตีแผ่” มากถึง 90.6 เปอร์เซ็นต์ และตอบว่า “ให้ผ่านเลยไป” เพียง 9.4 เปอร์เซ็นต์
ส่วนทางเฟซบุ๊ก ตอบว่า “ควรตีแผ่” 85 เปอร์เซ็นต์ และ “ให้ผ่านเลยไป” 15 เปอร์เซ็นต์
โดยส่วนหนึ่งของผู้ที่เข้ามาแสดงความเห็นมีดังนี้
“สาเหตุที่ทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น มันไม่ควรถูกลืมครับ ถึงจะเป็นการตอกย้ำให้กับครอบครัวผู้สูญเสียก็เถอะ แต่การรุ้ถึงปัญหาและป้องกันไม่ให้มันเกิดขึ้นอีกผมว่าจำเป็นนะครับ อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เป็นเหตุการณ์สุดท้าย”
“รัฐบาลและทุกหน่วยงานควรจะถอดบทเรียน เพื่อทำมาตราการการป้องกันให้รัดกุม แต่ไม่ต้องนำมาเผยแพร่ต่อประชาชน เพื่อป้องกันการศึกษาและนำไปลอกเลียนแบบ แบบนี้น่าเห็นด้วยมากกว่านะคะ”
“ตีแผ่ และแก้กฎหมาย ฆ่าผู้อื่นเท่ากับประหาร ถ้าใครออกมาใช้สิทธิในข้อนี้ มาห้ามปราม ถามว่าลองถูกเป็นผู้โดนฆ่าดูมัย หัวอกครอบครัวเขาจะรู้สึกยังงัย และทุกวันนี้อย่าผู้เรื่องสิทธิ มันไม่มีจริงในประเทศ สิทธิมีให้ใช้แค่คนกลุ่มเดียว อยากให้ชีวิตคนตายมีค่า ในการเปลี่ยนแปลงประเทศให้ปลอดภัย”
“ทุกคนมีเหตุผลในการทำสิ่งต่างๆ แม้แต่คนบ้าจะหัวเราะ เขาก็ต้องคิดว่าสิ่งที่เขาเห็นน่าหัวเราะนั่นคือเหตุผล หากมีสิ่งที่ควรแฉ!!หลังเหตุฯ ว่าทำไมถึงออกมาคลั่ง ก็สมควรยิ่ง เพื่อแก้ในส่วนต่างๆให้ถูกต้อง!!”
” เหตุการณ์นี้ต้องถือเป็นประวัติศาสตร์อีกเรื่องหนึ่ง จึงจะต้องเปิดเผยความจริงหรือตีแผ่ เพื่อนำไปสรุปเป็นบทเรียน สำหรับป้องกันและรับมือเหตุร้ายในอนาคต”
“ควรตีแผ่ทุกมุมให้ละเอียด…ไม่ควรปกปิดในทุกความจริงทุกแง่ทุกมุม! เอะอะจะไปกลัวอะไรกับคำว่า..จะมีคนเลียนแบบ…ใครอยากเลียนแบบก็ปล่อยให้มันเลียนไปทุกคนมีสมองมีสติปัญญาเฉพาะคน…ถ้ามันคิดว่าดีมันอยากเลียนแบบถ้าทำผิดกม. ก็จับรับโทษไป! ไม่มีอะไรน่ากลัวหรือตื่นตูมเกินเหตุ!”
“แยกเป็น2ส่วน 1 เรื่องในกรมกองควรตีแผ่เพื่อหาจุดที่ต้องแก้ไขปรับปรุง 2 เทอมินอล 21 ไม่ควรตีแผ่ เจ็บช้ำเสียหายกันทุกคน”
“ผมเลือก 1 เพราะมันไม่เหมือนการก่อการร้ายที่คนร้ายมุ่งหวังกระจายข่าวเพื่อให้โลกรับรู้ เพียงอยากประกาศศักดา และข่มขู่ฝ่ายตรงข้าม แต่เหตุการครั้งนี้ มันเกิดจากการเอาเปรียบของผู้มีอำนาจ ในวงการทหาร ผมเชื่อว่าถ้าผู้ก่อเหตุไม่ตาย น่าจะตีแผ่ด้านมึดใน ทบ. และเปิดหน้าคนเลวๆได้อีกหลายคน”
“ต้องให้ความยุติกับเขา // สาเหตุ ที่คลั่งเพราะอะไร มาจากไหน ส่วนที่จ่าไปฆ่าผู้บริสุทธิ์ ก็ว่ากันไปอีกกรณีหนึ่ง ว่ากันเป็นเรื่องๆไป”
“ตีแผ่ถึงปัญหาในกองทัพที่สร้างปัญหาให้กับสังคม แต่ไม่ต้องตอกย้ำถึงเหตุการณ์รายละเอียดมากเกินไป ทุกวันนี้โลกยุคใหม่สงครามเปลี่ยนรูปแบบมาเป็นสงครามด้านการค้า การมีทหารยังเป็นเรื่องจำเป็นในยามชาติวิกฤตแต่ไม่ใช่มีไว้เพื่อข่มขู่ เข่นฆ่าคนในชาติเดียวกัน”
โดยสามารถดูความคิดเห็นทั้งหมดทางเฟซบุ๊ก มติชนออนไลน์ ได้ที่นี่
