ดุสิตโพล ชี้ ปชช. บ่นข้าวของแพง-รายได้น้อยไม่พอจ่าย จี้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหา ศก.
เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเรื่อง “มาช่วยแก้เสียงบ่นของคนไทย” จากกลุ่มตัวอย่าง 1,164 คน สำรวจระหว่างวันที่ 5-9 ตุลาคม 2563
พบว่า คนไทยบ่นเรื่องข้าวของแพงมากที่สุด 60.26% รองลงมาคือ เรื่องรายได้น้อยไม่พอกับรายจ่าย 50.43% สาเหตุที่บ่นเพราะอยากให้แก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน 66.96% อึดอัด เบื่อ ทนไม่ไหว 58.09% วิธีแก้ไขเสียงบ่น คือ ต้องเร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจ 64.65% รัฐบาลต้องแก้ปัญหาอย่างจริงจัง 58.77% โดยเห็นว่าคนที่ควรเข้ามาแก้ปัญหาเสียงบ่นมากที่สุด คือ รัฐบาล 61.19% รองลงมาคือ นายกรัฐมนตรี 55.05%
นางสาวพรพรรณ บัวทอง นักวิจัยสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ระบุว่า จากผลการสำรวจจะเห็นได้ว่าเรื่องที่คนไทยบ่นเป็นเรื่องที่เป็นปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งประเทศไทยประสบปัญหานี้มาอย่างต่อเนื่องยาวนาน และประชาชนอยากให้รัฐบาลและนายกฯ แก้ไขเร่งด่วนที่สุด เพราะกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่อย่างมาก บางครั้งเสียงบ่นอาจเป็นเพียงเสียงที่น่ารำคาญ แต่ในความเป็นจริงแล้ว เสียงบ่นทั้งหมดนั้นก็คือเสียงของคนไทยที่รัฐบาลควรรับฟังและให้ความสำคัญ
ด้าน ดร.พันธรักษ์ ผูกพันธุ์ ผู้อำนวยการสถาบันภาษา ศิลปะและวัฒนธรรมมหาวิทยาลัยสวนดุสิต ระบุว่า การสำรวจเสียงบ่นของคนไทยเห็นได้ว่าปัญหาหลักที่ประชาชนบ่นถึงเป็นปัญหาเศรษฐกิจ การเมือง และสังคมตามลำดับ ซึ่งปัญหาทั้งสามมีความสัมพันธ์กัน
ประเด็นแรก ปัญหาเศรษฐกิจส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของประชาชนมากที่สุด โดยเฉพาะปัญหาราคาสินค้าที่สูงขึ้นและปัญหารายได้ไม่พอกับรายจ่าย ดังนั้น การบริหารเศรษฐกิจสาธารณะของรัฐบาลจึงมีความสำคัญและท้าทายมาก การดำเนินมาตรการทางการคลังทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาวท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวของไทยและของโลกต้องสามารถกระตุ้นการบริโภคของคนไทยและภาคการผลิต ซึ่งจะช่วยเพิ่มปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจของประเทศอย่างต่อเนื่อง
นอกจากปัญหาเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างหลีกเลี่ยงได้ยากแล้ว รัฐบาลควรคำนึงถึงความร่วมมือกับภาคประชาชนเพื่อแก้ไขปัญหาสังคมและการเมืองด้วย ดังที่ประชาชนเห็นว่าตนเองและคนไทยทุกคนมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อปัญหา และการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้เช่นกัน
ที่มาข้อมูล : ดุสิตโพล