ซูเปอร์โพลเผย ปมร้อน ม็อบ-การเมือง กระทบความสุขคนไทย
สำนักวิจัย ซูเปอร์โพล นำเสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง ความสุข ของ คนไทย ภายในประเทศ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) นำเสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง ความสุข ของ คนไทย ภายในประเทศ กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ โดยดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) จำนวน 1,425 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่าง 13 – 17 ตุลาคม 2563 พบว่า
ความสุขของคนไทยภายในประเทศสูงสุดอันดับแรก เมื่อคะแนนเต็ม 10 คะแนน ได้แก่ ความสุขในครอบครัว ได้ 6.83 คะแนน ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ค่อนข้างดี รองลงมาคือ ความสุข เห็น คนไทย เป็นหนึ่งเดียวกันแสดงความจงรักภักดี พระองค์ท่านทรงช่วยเหลือประชาชนยามวิกฤตโควิดด้วยเครื่องช่วยชีวิต เครื่องมือแพทย์ ทรงช่วยเหลือกู้วิกฤต 13 ชีวิตหมูป่าที่ถ้ำหลวง ทรงพระราชทานที่ดินให้ประชาชน ฯลฯ ได้ 6.58 คะแนน อันดับสาม ได้แก่ ความสุข จะเห็น ภาพคนไทย ทำบุญคล้ายวันสวรรคต ในหลวงรัชกาลที่ ๕ ทรงเป็นพระราชบิดาแห่งสิทธิเสรีภาพ พระราชบิดาแห่งสิทธิมนุษยชน ด้วยการเลิกทาส ฯลฯ ได้ 6.55 คะแนน อันดับสี่ ได้แก่ ความสุขคนไทย เห็นต่างชาติ สนับสนุนคนไทยมีความจงรักภักดี ต่อสถาบัน เสาหลักของชาติให้มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ได้ 6.54 คะแนน
สำหรับความสุขของคนไทยภายในประเทศ อันดับห้า ได้แก่ ความสุข ที่เห็น คนไทยแสดงความจงรักภักดี ทำบุญคล้ายวันสวรรคต ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงงานหนัก เหน็ดเหนื่อยเพื่อคนไทยทั้งประเทศ หลายพันโครงการพระราชดำริ เช่น แก้มลิง ชั่งหัวมัน เศรษฐกิจพอเพียง พึ่งตนเอง พัฒนาการเกษตรพื้นที่สูง พื้นที่ราบ และชายฝั่งทะเล ฯลฯ ได้ 6.48 คะแนน อันดับหก ได้แก่ ความสุขต่อ ความสัมพันธ์ของคนในชุมชน รู้รักสามัคคี ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน มีน้ำใจต่อกัน ได้ 6.46 คะแนน อันดับเจ็ด ได้แก่ ความสุขต่อ สุขภาพกาย ได้ 6.42 คะแนน อันดับ แปด ได้แก่ ความสุข ต่อ สุขภาพใจ ได้ 6.29 คะแนน และอันดับรอง ๆ ลงไปได้แก่ ความสุข ต่อ รูปแบบการใช้ชีวิต ได้ 6.09 คะแนน ความสุข ต่อความรักความสามัคคีของคนในชาติทุกวันนี้ ได้ 5.96 คะแนน ความสุขต่อ หน้าที่การงาน ได้ 5.95 คะแนน ความสุขต่อ รายได้ของตนเอง ได้ 5.54
ที่น่าเป็นห่วงคือ ปัจจัยที่ฉุดค่าเฉลี่ยความสุขของคนไทยภายในประเทศให้ตกต่ำลง ได้แก่ การชุมนุม ม็อบ และการเมือง ได้เพียง 3.97 และที่ต่ำสุด ได้แก่ เศรษฐกิจของประเทศ ปัญหาปากท้องของประชาชน ได้เพียง 3.54 คะแนน จากคะแนนเต็ม 10 คะแนน
ที่น่าพิจารณาคือ ผลการทดสอบ โมเดลความสุข แสดงความสัมพันธ์ระหว่าง เหตุปัจจัยต่าง ๆ กับ ความสุขของคนไทยภายในประเทศ พบว่า เหตุปัจจัยต่าง ๆ มีความสัมพันธ์ต่อความสุขของคนไทยภายในประเทศระดับมากคือ .912 จากค่าเต็ม 1 หรือ ถ้าเข้าใจได้ง่ายคือคือ ถ้าคิดค่าเต็ม 10 ได้ 9.12 หรือ 91.2 เมื่อค่าเต็ม 100 แสดงให้เห็นว่า เหตุปัจจัยต่าง ๆ ต่อไปนี้ มีความสัมพันธ์ระดับมาก กับ ความสุขของคนไทยภายในประเทศ โดยอธิบายความสุขได้สูงถึง 83% หรือร้อยละ 83
เหตุปัจจัยสำคัญสูงสุดอันดับแรกต่อ ความสุขของคนไทยภายในประเทศ ได้แก่ สุขภาพกาย ได้ค่าอธิบายสูงสุดที่ .425 ที่ระดับนัยสำคัญ .01 อันดับสองได้แก่ คนไทยมีงานทำ ได้ค่าอธิบายที่ระดับ .138 อันดับสาม ได้แก่ คนไทยทำบุญถวายในหลวง ร.๙ ได้ค่าอธิบายที่ .064 เป็นต้น
โดยสรุป เหตุปัจจัยต่าง ๆ ที่จะทำให้ ความสุขของคนไทยภายในประเทศ เพิ่มสูงขึ้น ได้แก่ สุขภาพกาย (.425) คนไทยมีงานทำ (.138) คนไทยทำบุญถวายในหลวงรัชกาลที่ ๙ (.064) และที่น่าสนใจคือ ถ้าต่างชาติสนับสนุนคนไทยจงรักภักดีต่อสถาบัน เสาหลักของชาติ (.056) หลักการใช้ชีวิตพอเพียง (.056) คนไทยรู้รักสามัคคี (.051) และสภาพเศรษฐกิจที่ดีของประเทศ (.050) จะทำให้ความสุขของคนไทยภายในประเทศเพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ม็อบและการเมือง มีค่าติดลบ (-. 051) จะทำให้ความสุขของคนไทยภายในประเทศตกต่ำลดน้อยลง
ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวต่อว่า ผลการศึกษา ความสุขของคนไทยภายในประเทศครั้งนี้ ชี้ให้เห็นว่า ความสุขของคนไทยภายในประเทศ อยู่ในมือของประชาชนคนไทยทุกคนที่ยังทันต่อการรักษาไว้และทำให้เพิ่มสูงขึ้น โดยหันไปใช้หลักประชาธิปไตยในสภาไม่ใช่พาคนลงถนน โดยเฉพาะโลกโซเชียลในมือถือของแต่ละคนจะทำให้ชาติบ้านเมืองผ่านพ้นวิกฤตการเมือง วิกฤตเศรษฐกิจ และวิกฤตโควิด-19 ไปได้ไม่ยากนัก
ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวต่อว่า ถ้าทุกคนทำให้การขับเคลื่อนประชาธิปไตยเป็นการขับเคลื่อนที่ไม่ซ้ำเติม สุมไฟ ใส่ร้ายป้ายสี บิดเบือนข้อมูลและปั้นความเท็จทำลายเสาหลักของชาติ ถ้าทุกคนหยุดปั่นกระแส หยุดปั่นอารมณ์ และทุกคนตั้งสติให้มั่น นึกถึงประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกที่ขัดแย้งรุนแรงบานปลาย จะพบว่า ประชาชนในประเทศเหล่านั้นกำลังเป็นทุกข์หนักยิ่งนักจากการจลาจลและม็อบที่คุกคาม เบียดเบียนผู้อื่น ไม่มีประเทศใดเลยที่เจริญขึ้นจากความขัดแย้งและความแตกแยกของคนในชาติ ไม่ว่า จะเป็น เกาะฮ่องกง ที่ตอนนี้ หลายคนในม็อบและแกนนำจะใช้ ฮ่องกงโมเดล แต่ทุกวันนี้ เศรษฐกิจฮ่องกง เป็นอย่างไร คนฮ่องกงทุกข์ยากขนาดไหน และเศรษฐกิจของประเทศ ลิเบีย ที่มีต่างชาติเข้าแทรกแซงซึ่งทั้งสองตัวอย่างเคยมีทรัพยากรมากเติบโตสูง แต่เพราะความแตกแยกของคนในชาติ ความสุขของคนในชาติเหล่านั้นจึงตกต่ำจนทุกข์ยาก เดือดร้อนกันอย่างทั่วถึงในทุกวันนี้ แต่คนได้ประโยชน์คือ กลุ่มคนท้องถิ่นและต่างชาติที่ทำธุรกิจหาผลประโยชน์กับม็อบ จริงหรือไม่ลองตรวจสอบกันดู
