ธปท.เพิ่มประเภทหลักประกันการขอสินเชื่อ(คลิป)

มติชน สมาร์ทบิซ ว้นที่ 30 มิ.ย.2559

นางสาวยุพิน เรืองฤทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายธุรกิจและบัญชีสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. กล่าวว่า ธปท.ได้ออกประกาศหลักเกณฑ์การจัดชั้นและกันเงินสำรอง ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคม 2559 เพื่อรองรับพระราชบัญญัติหลักประกันทางธุรกิจ พ.ศ.2558 โดยผลของ พ.ร.บ.นี้ ทำให้ผู้ประกอบการสามารถนำสินทรัพย์ อาทิ กิจการ สิทธิเรียกร้องที่ไม่มีตราสาร ทรัพย์สินทางปัญญา รวมถึงสินค้าคงคลัง วัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต สินค้าสำเร็จรูป และสินค้าเกษตร มาเป็นหลักประกันได้ ซึ่งจะเอื้อให้ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดเล็กและขนาดย่อม หรือ เอสเอ็มอี และกลุ่มธุรกิจสตาร์ตอัพ สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้หรือสินเชื่อได้ง่ายขึ้น ทั้งนี้ ผู้ประกอบการไม่ต้องส่งมอบทรัพย์หรือทะเบียนของหลักทรัพย์ แต่สามารถสินทรัพย์เหล่านี้มาจดทะเบียนหลักประกันธุรกิจ ซึ่งสถาบันการเงินและกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้มีการพัฒนาระบบในการจดทะเบียนหลักทรัพย์ร่วมกัน ทำให้สามารถตรวจสอบได้ว่าสินทรัพย์เหล่านั้นมีการจดทะเบียนเพื่อขอสินเชื่อไปแล้วหรือไม่ ทำให้ไม่เกิดกรณีการนำสินทรัพย์ไปขอสินเชื่อซ้ำ

โดย ธปท.ได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์การจัดชั้นและการกันสำรองของสถาบันการเงินใหม่ เพื่อรองรับพ.ร.บ.ประกันธุรกิจฯ โดยได้เพิ่มประเภทหลักประกันที่สถาบันการเงินจะสามารถนำมูลค่าของสินทรัพย์ มาหักจากยอดหนี้ก่อนการกันสำรองได้เพิ่มเติม ได้แก่ กิจการมูลค่าไม่เกิน 50 ล้านบาท สามารถหักมูลค่าก่อนการกันสำรองได้ 60% ของราคาประเมิน สิทธิเรียกร้องที่ไม่มีตราสาร เช่น สิทธิเรียกร้องในลูกหนี้ หรือสิทธิเรียกร้องในการปฏิบัติตามและการรับเงินจากสัมปทาน หากลูกหนี้เป็นหน่วยงานราชการ หักมูลค่าได้ 100% ส่วนลูกหนี้ที่เป็นบุคคลอื่นหักมูลค่าได้ 40% ส่วนหลักประกันเดิมที่มีการประกาศไว้แล้ว ได้แก่ จากเดิมที่มีเงินสด หักมูลค่าได้ 100% อสังหาริมทรัพย์ หักมูลค่าได้ 90% ของราคาประเมิน เป็นต้น

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image