มติชน สมาร์ทบิซ วันที่ 1 ก.ค.2559
นายกรศิษฏ์ ภัคโชตานนท์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. กล่าวแถลงนโยบายหลังเข้ารับตำแหน่งผู้ว่า กฟผ.คนใหม่ ว่า กฟผ. จะมุ่งสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน ควบคู่กับการพัฒนา โรงไฟฟ้าถ่านหิน เพื่อถ่วงดุลให้ค่าไฟฟ้าของประเทศไม่สูงจนเกินไป เพราะการผลิตพลังงานทดแทน จะทำให้ค่าไฟฟ้าระยะยาวจะเพิ่มขึ้นเป็น 4 ถึง 5 บาทต่อหน่วย จากปัจจุบันอยู่ที่ 3 บาทต่อหน่วย โดยตามแผน พีดีพี 2015 จะทำให้ค่าไฟฟ้าประเทศ เฉลี่ยอยู่ระดับ 4.60 บาทต่อหน่วย
เบื้องต้นจะพัฒนาโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ และโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา จ.สงขลา ให้สำเร็จ โดยปัจจุบันโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ อยู่ระหว่างการศึกษาของคณะไตรภาคี ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลา 2 ถึง 4 เดือน จึงจะสรุปได้ว่าควรสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่หรือไม่ ขณะที่โรงไฟฟ้าถ่านหินเทพานั้น ได้จัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรืออีไอเอ เสนอภาครัฐพิจารณาแล้ว และขณะนี้กำลังจัดทำเงื่อนไขการประมูลก่อสร้างคู่ขนาดไปกับการรอผลอีไอเอด้วย
นอกจากนี้ กฟผ.จะเสนอปรับแผนพีดีพี 2015 ต่อ กกพ. เพื่อให้ กฟผ.สามารถเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าได้ตามเป้าหมายของรัฐบาลที่ 50% ของการผลิตไฟฟ้าทั้งประเทศ จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนการผลิตเพียง 37% โดยหากไม่ทำอะไรเลย สัดส่วนการผลิตไฟฟ้า กฟผ.ตามแผนพีดีพี 2015 ใน 20 ปีข้างหน้าก็จะเพิ่มได้แค่ 39% เท่านั้น ซึ่งภาครัฐต้องการให้ กฟผ.กลับมามีสัดส่วนการผลิตไฟฟ้า 50% เพื่อสร้างความมั่นคงไฟฟ้าประเทศ
