มติชน สมาร์ทบิซ วันที่ 5 ก.ค.2559
นายมงคล สุขเจริญคณา นายกสมาคมประมงสมุทรสงคราม, นายกสมาคมเรือลากคู่สมุทรสงคราม และประธานคณะกรรมการบริหารสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เป็นข่าวดีสำหรับรัฐบาลไทยที่สหรัฐอเมริกาปรับอันดับสถานการณ์การค้ามนุษย์ของไทยหลุดออกจากกลุ่มที่ 3 หรือ เทียร์ 3 เนื่องจากที่ผ่านมารัฐบาลพยายามแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ซึ่งเป็นวาระแห่งชาติด้วยความตั้งใจและจริงใจ ทำให้รัฐบาลอเมริกาเห็นถึงความตั้งใจในครั้งนี้ ตนมองว่ามีโอกาสที่จะมีการซื้อขายมากขึ้น ซึ่งจะทำให้สินค้าประมงไทยส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกาได้มากขึ้น
สมาคมยินดีให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ แต่จะติดปัญหาในส่วนของแรงงานในภาคประมงทะเลที่มีโอกาสและความเสี่ยงการค้ามนุษย์ได้ง่าย เนื่องจากแรงงานต่างด้าวในเรือประมงมีโอกาสเป็นแรงงานที่ผิดกฎหมาย เพราะมีการหมุนเวียนเข้าออกตลอดเวลา จึงอยากให้ยืดระยะเวลาการจดทะเบียนแรงงานออกไปจากเดิมที่จะครบกำหนดในวันที่ 31 กรกฎาคมนี้
ด้านนายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ รองประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และนายกสมอาหารแช่เยือกแข็งไทย เปิดเผย ภาคเอกชน มองว่า จะส่งผลดีต่อประเทศไทยใน 3 ด้านด้วยกัน คือ 1. ภาพลักษณ์และภาพพจน์ต่อปัญหาการค้ามนุษย์ของไทยที่ดีขึ้น 2.การส่งออกไปยังตลาดสหรัฐฯ และตลาดชาติตะวันตกมีการปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น 3.แสดงให้ต่างชาติเห็นว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ความสำคัญและจริงจังในการเร่งแก้ไขปัญหาที่เป็นระดับสากล
นายพจน์ กล่าวว่า การที่ไทยถูกปรับอันดับให้ขึ้นเทียร์ 2 น่าจะส่งผลดีต่อภาพลักษณ์ของสินค้าประมงไทย น่าจะช่วยดันการส่งออกภาคประมงปรับตัวสูงขึ้น ประเมินว่าตัวเลขการส่งออกสินค้าประมงทั้งปีน่าจะมีมูลค่าประมาณ 2 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ก่อนที่มีมูลค่าประมาณแสนกว่าล้านบาท โดยการส่งออกปลาและปลาหมึกจะมีมูลค่าประมาณ 25,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ก่อนที่มีมูลค่าประมาณ 20,000 ล้านบาท กุ้งน่าจะมูลค่าประมาณ 65,000 ล้านบาท หรือเติบโต 10% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีมูลค่าประมาณ 58,000 ล้านบาท
นายชนินทร์ ชลิศราพงศ์ นายกสมาคมอุตสาหกรรมทูน่าไทย กล่าวว่า จากการที่ไทยถูกปรับอันดับขึ้นเทียร์ 2 น่าจะส่งผลดีต่อการประเมินการแก้ไขปัญหาไอยูยูของอียูด้วย เชื่อว่าอียูน่าจะประเมินการแก้ไขปัญหาของไทยไปในทิศทางที่ดีขึ้น หรือเท่าเดิม
