มติชน สมาร์ทบิซ วันที่ 6 ก.ค.2559
นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน หรือ กกร. ได้ปรับลดประมาณการณ์มูลค่าการส่งออกปีนี้มาอยู่ที่ติดลบ 2 ถึง 0% จากเดิมคาดว่าเติบโต 0 ถึง 2% เนื่องจากเศรษฐกิจโลกยังมีความผันผวนสูง อาจส่งผลกระทบต่อคำสั่งซื้อสินค้าจากไทย ทำให้การฟื้นตัวของการส่งออก อาจต้องใช้เวลามากกว่าที่คาด อย่างไรก็ตาม ยังคงกรอบประมาณการอัตราขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือ จีดีพีไว้ที่ 3 ถึง 3.5 % แรงหนุนยังมาจากการใช้จ่ายภาครัฐและการท่องเที่ยว
ส่วนกรณีสหราชอาณาจักร ออกจากการเป็นสมาชิกอียู หรือ เบร็กซิท ไม่ได้เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ กกร. ปรับลดเป้าหมายการส่งออก เพราะความเชื่อมโยงทางการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว ของไทยกับสหราชอาณาจักรมีสัดส่วนไม่มาก และเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของไทยค่อนข้างแข็งแกร่ง ทั้งนี้ กกร.มีมติเห็นชอบศึกษาความเป็นไปได้ ผลได้ผลเสียในการเจรจาการค้าเสรีระบบทวิภาคีกับสหราชอาณาจักรหลังจากแยกตัวออกจากอียู เพราะยังมีโอกาสในการส่งออกด้านบริการ หากไทยจะต้องการพัฒนาเป็นประเทศที่มีรายได้จากภาคบริการมากขึ้น แม้สินค้าอุตสาหกรรมที่ส่งออกในปัจจุบันจะมีไม่มากก็ตาม อย่างไรก็ตามยอมรับว่าเบร็กซิททำให้เศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงมากขึ้น เพราะความไม่แน่นอนในรูปแบบความสัมพันธ์ระหว่างอังกฤษและอียู ที่กระบวนการเจรจาต้องใช้เวลานานพอสมควร
ส่วนกรณีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ออกรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ประจำปี 2559 ปรับระดับประเทศไทยขึ้นเป็น ระดับ 2 บัญชีที่ต้องจับตามอง หรือ เทียร์ 2 วอทช์ ลิสต์ จะส่งผลให้ภาพลักษณ์ของประเทศไทยดีขื้น สร้างความเชื่อมั่นให้ผู้นำเข้า และผู้บริโภคมีความมั่นใจและสบายใจในการบริโภคสินค้าจากประเทศไทย ส่งผลให้การส่งออกของไทยสามารถขับเคลื่อนไปได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นผลดีต่อเนื่องถึงการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม หรือ ไอยูยู ซึ่งรวมเรื่องค้ามนุษย์ไว้ด้วย
