มติชน สมาร์ทบิซ วันที่ 26 ก.ค.2559
นายสิทธิโชค นพชินบุตร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่นจำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค กล่าวว่า ในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ดีแทคมีสัดส่วนผู้ใช้บริการด้านเสียงลดลง ในขณะที่ใช้บริการข้อมูลเพิ่มขึ้นเป็น 60% ของฐานลูกค้ารวมจากเดิมอยู่ที่ 58% ในไตรมาส 1 ปี 2559 , สัดส่วนผู้ใช้สมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้นเป็น 65% ของฐานลูกค้ารวม โดยมีปัจจัยจากเทคโนโลยี 4จี , ข้อเสนอแพ็กเกจที่คุ้มค่าของบริษัทฯ และประสบการใช้งานที่ดียิ่งขึ้นจากการขยายโครงข่าย 4จี
ซึ่งส่งผลให้ขณะนี้ดีแทคมีจำนวนผู้ใช้บริการ 4จี จำนวน 3.5 ล้านเลขหมาย เพิ่มขึ้นจาก 2.9 ล้านเลขหมายในไตรมาสที่แล้ว ตั้งเป้าเพิ่มฐานลูกค้า 4จี ให้เป็น 6 ล้านเลขหมายภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งการปรับเป้าการเติบโตของจำนวนลูกค้า 4จี ลดลงจากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ 10 ล้านเลขหมาย เนื่องมาจากลูกค้าเปลี่ยนเครื่องช้าลง
ส่วนกรณีที่ลูกค้าระบบเติมเงิน หรือ พรีเพด ของดีแทค ในไตรมาสที่ 2 ที่มีจำนวนลูกค้าใช้งานอยู่ราว 25 ล้านเลขหมาย ลดลงจากไตรมาส 1 กว่า 5 แสนเลขหมาย และเมื่อนับรวมกับลูกค้าในระบบรายเดือน หรือ โพสต์เพด จะพบว่าดีแทคมีลูกค้าลดลงกว่า 7 แสนเลขหมาย มาจากการที่คู่แข่งมีโปรโมชั่นแจกเครื่องฟรีเป็นหลัก ทำให้ในระยะสั้น ดีแทคต้องเล่นตามเกมคู่แข่งขัน โดยการแจกเครื่องลูกข่าย อย่างไรก็ตาม เคมเปญดังกล่าวมีลักษณะคล้ายเป็นการซื้อมาร์เก็ตแชร์ ซึ่งไม่มีความยั่งยืนในระยะยาว ดังนั้นดีแทคจะสร้างกลยุทธ์ของตัวเองขึ้นมาให้ได้ในอนาคต
ทั้งนี้ ดีแทคตั้งเป้าเป็นเบอร์ 1 ของแบรนด์ดิจิทัลของประเทศไทย ภายในปี 2563 โดยมีหลักในการทำงานในระยะยาว 3 เรื่องคือ การปรับภาพลักษณ์แบรนด์ และวัฒนธรรมการทำงานที่สะท้อนความเป็นองค์กรดิจิทัล, การให้บริการดิจิทัล และการหาพันธมิตรทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยวางงบการตลาดปีนี้ 5,000 ล้านบาท เพิ่มจากปีก่อน 20%
