มติชน สมาร์ทบิซ วันที่ 5 ส.ค.2559
อีก 2 วัน จะมีการลงประชามติว่าจะรับหรือไม่รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ภาคธุรกิจเชื่อว่าไม่มีผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจ และจะกระทบต่อตลาดหุ้นในระยะสั้นเท่านั้น
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญวันอาทิตย์ที่ 7 สิงหาคมนี้ นักลงทุนต่างชาติไม่กังวลกับการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าร่างรัฐธรรมนูญดังกล่าว จะผ่านการลงประชามติหรือไม่ โดยต่างชาติยังคงเชื่อมั่นและพร้อมลงทุนต่อไป
นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทยและกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การลงประชามติไม่มีผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจ ไม่มีผลต่อการลงทุนของต่างชาติ เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติจะพิจารณาการลงทุนเป็นภาพระยะยาว และพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐานของเศรษฐกิจเป็นหลัก ภาพรวมเศรษฐกิจไทยยังคงขยายตัวได้ ประเมินว่าอัตราการขยายตัวปีนี้จะเติบโตร้อยละ 3 และปรับตัวดีขึ้นปี 2560 สิ่งที่นักลงทุนทั้งในประเทศและต่างชาติอยากเห็น คือ ความแน่นอน หากรัฐบาลสามารถจัดการเลือกตั้งปี 2560 ตามโรดแมปที่วางไว้จะสร้างความเชื่อมั่นได้และเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจ
ด้าน นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย มองว่า จาก ผลสำรวจพบว่าประชาชนยังกังวลเรื่องการลงประชามติอยู่บ้าง หากผลการลงประชามติออกมาว่าคนส่วนใหญ่รับร่างรัฐธรรมนูญ ทิศทางการเมืองจะชัดเจนขึ้นและเป็นไปตามกรอบที่วางไว้ จะส่งผลต่อความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจดีขึ้น แต่ถ้าผลการลงประชามติออกมาว่าเสียงส่วนใหญ่ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ก็จะเข้าสู่กระบวนการทำร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ซึ่งอยู่ที่ว่าจะนำรัฐธรรมนูญฉบับไหนมาปรับใช้ ก็จะเป็นสถานการณ์ wait and see ความคึกคักในการลงทุนจะน้อยลงหรือชะลอตัว
ขณะที่นายณัฐชาต เมฆาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า ไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมารูปแบบใด ประเมินว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อกระแสเงินทุนต่างชาติอย่างมีนัยสำคัญ เพราะเม็ดเงินต่างชาติจะเคลื่อนไหวตามปัจจัยภายนอกมากกว่า ส่วนปัจจัยการเมืองจะส่งผลกระทบเพียงเชิงจิตวิทยาต่อนักลงทุนในประเทศเท่านั้น ในระยะสั้น คาดการณ์ว่าตลาดหุ้นไทยจะเคลื่อนไหวในกรอบดัชนี 1,470-1,550 จุด