อสังหาฯกังวล ใช้เกณฑ์เครดิตบูโรปล่อยสินเชื่อ(คลิป)

มติชน สมาร์ทบิซ วันที่ 7 ต.ค.2559

นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในการเปิดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 35 ว่า ภาคอสังหาริมทรัพย์ครึ่งหลังปีนี้ยังมีสัญญาณบวกจากฝั่งภาคเอกชน แม้ภาครัฐจะไม่ได้ออกมาตรการเพื่อกระตุ้นภาคอสังหาฯ แต่ก็ได้รับผลทางอ้อมจากมาตรการที่รัฐบาลดำเนินการ โดยเฉพาะโครงการที่อยู่อาศัยตามแนวรถไฟฟ้า

ในส่วนของภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งเดิมตั้งใจให้มีผลบังคับใช้ในช่วงต้นปี 2560 แต่ขณะนี้ยังอยู่ในกระบวนการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา คาดว่าจะเสนอไปยัง สนช.พิจารณาได้ภายในเดือนตุลาคม 2559 นี้ แต่จะมีผลบังคับใช้ในปี 2560 หรือไม่ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ สนช.

Advertisement

อย่างไรก็ตาม ไม่อยากให้วิตกกังวลว่ากฎหมายนี้จะสร้างภาระกับประชาชน เพราะกฎหมายมีข้อยกเว้นสำหรับบ้านหลังแรกราคาไม่เกิน 50 ล้านบาท และที่ดินเกษตรไม่เกิน 50 ล้านบาท ไม่ต้องเสียภาษี ซึ่งคิดเป็น 90% ของผู้ถือครองทั้งหมด ภาษีส่วนใหญ่ที่จัดเก็บจะมาจากภาคอุตสาหกรรมและพาณิชยกรรมถึง 90%

ด้านนายอธิป พีชานนท์ นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า จำนวนโครงการเปิดใหม่ ยอดขาย และยอดโอนกรรมสิทธิ์ในไตรมาส 3 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2 ถือเป็นสัญญาณที่ดี แต่ยังต้องจับตาสถานการณ์ในไตรมาส 4 ซึ่งมีโครงการใหม่ๆ เปิดตัวจำนวนมาก โดยเฉพาะในกลุ่มคอนโดมิเนียม สวนทางกับอัตราการปฏิเสธสินเชื่อของธนาคารเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สิ่งที่น่ากังวลคือการที่ธนาคารใช้ข้อมูลเครดิตบูโรมาเป็นเหตุผลในการปฏิเสธการให้สินเชื่อ ทั้งที่บางรายชำระหนี้หมดเรียบร้อยแล้ว แต่ต้องใช้เวลา 3 ปีจึงจะถูกถอนชื่อออกจากเครดิตบูโร

ขณะที่กำลังซื้อของลูกค้า ในส่วนภูมิภาคซึ่งมีสัดส่วนกว่า 30% ของตลาดอสังหาฯยังไม่ฟื้นตัวเท่าที่ควร เนื่องจากปัญหาราคาสินค้าเกษตร และการหมุนเวียนของเม็ดเงินที่ยังลงไปไม่ถึง เชื่อว่าการขยายตัวของตลาดในภูมิภาคปีนี้อาจติดลบ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของภาพรวมทั้งประเทศ คาดว่าจะขยายตัวระหว่าง 0-5% เนื่องจากยังมีความหวังจากกำลังซื้อของคนทำงานประจำ ซึ่งยังไม่มีข่าวถูกเลิกจ้างหรือปรับลดค่าจ้าง

นายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ หรือเครดิตบูโร เปิดเผยว่า สาเหตุที่ธนาคารปฏิเสธการขอสินเชื่อเพิ่มขึ้น เพราะผู้ที่ขอกู้มีรายได้ไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนด หรือมีการค้างชำระในสินเชื่อประเภทอื่นเกินกว่าที่จะให้สินเชื่อได้ รวมถึงราคาที่อยู่อาศัยสูงเกินไป ดังนั้นผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์จะต้องปรับลดราคาที่อยู่อาศัย ขณะที่ผู้ยื่นขอสินเชื่อควรจะหาผู้กู้ร่วม เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการผ่อนชำระให้สูงขึ้น

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image