นายเรืองโรจน์ กระทิง พูนผล ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดิสรัป เทคโนโลยี เวนเจอร์ จำกัด เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ในช่วงปลายปีที่แล้วบริษัทได้ตกลงทางธุรกิจร่วมกันกับกองทุน 500 สตาร์ตอัพ (500 Startups) จากซิลิกอนวัลเลย์ ประเทศสหรัฐอเมริกาให้ 500 Startups เข้ามาเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ในการบุกเบิกธุรกิจ และแสวงหาโอกาสใหม่ๆ ในประเทศไทยเพิ่มขึ้น
โดยปีนี้จะต่อยอดขยายธุรกิจเพิ่มเติมไปในอีก 3 ส่วนด้วยกัน ซึ่งเดิมตั้งแต่ยุคเริ่มแรกจะถึงปัจจุบันทำเฉพาะโครงการบ่มเพาะเทคสตาร์ตอัพ ในชื่อ “Disrupt University” สร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ แต่ทั้งหมดก็เพื่อผลักดันให้ทุกภาคส่วนในประเทศไทยเข้าถึงการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัล (Digital For All)
โดยส่วนแรกที่เพิ่มเติมเข้ามา เรียกว่า Corporate Venture Builder (CVB) กลุ่มเป้าหมายจะเป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่ต้องการปรับเปลี่ยนองค์กรและพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ สำหรับธุรกิจของตนเองขึ้นมา ซึ่งบริษัทจะเลือกเพียงหนึ่งบริษัทในแต่ละอุตสาหกรรมเท่านั้น คาดว่าภายในปีนี้จะมี 5 บริษัท ใน 5 อุตสาหกรรม
ขาถัดมาเป็นความตั้งใจของตนเองที่มีมานานแล้วที่ต้องการมีส่วนในการสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กไทยรุ่นใหม่หันมาสนใจเรื่องเทคโนโลยีมากขึ้น ผ่านโครงการบ่มเพาะเด็กรุ่นใหม่ (Young Digital Talent) เน้นเฉพาะเด็กประถมปลายถึงมัธยมต้นเท่านั้น โดยเปิดพื้นที่กึ่งสนามเด็กเล่นสอนให้เด็กรู้จักเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งจะเป็นเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทสำคัญในอีก 5-10 ปีข้างหน้า
และส่วนสุดท้ายจะเน้นไปในเรื่องการช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและเล็ก (เอสเอ็มอี) เป็นหลัก คาดว่าจะเริ่มได้ในช่วงครึ่งปีหลัง โดยอยู่ระหว่างการวางรูปแบบที่เหมาะสม
สำหรับโครงการบ่มเพาะเทคสตาร์ตอัพ หรือ “Disrupt University” ทำมาแล้ว 4 ปี จะยังคงทำต่อไป คาดว่าในสิ้นปีจะมีจำนวนนักเรียนที่จบหลักสูตรมากกว่า 1,000 คน
นายเรืองโรจน์เชื่อว่า ปีนี้ก็ยังจะเป็นขาขึ้นของสตาร์ตอัพในไทย แต่สิ่งที่อยากให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ช่วยผลักดันโดยเร็ว คือ การเร่งกฎหมายหลายๆ มาตราที่ยังค้างอยู่ และคิดถึงเรื่องการสร้างคนรุ่นใหม่ที่มีความรู้ความสามารถด้านเทคโนโลยีที่จะมีส่วนสำคัญในเทคสตาร์ตอัพ
