นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. กล่าวว่า ประเมินอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจ หรือจีดีพี ของไทยปี 2560 ขยายตัวได้ 3.2% จากการส่งออกที่ปรับตัวดีขึ้นและกระจายตัวเพิ่มในหลายอุตสาหกรรม น่าจะส่งผลดีต่อการลงทุนภาคเอกชน, ภาวะภัยแล้งที่คลี่คลายลง และราคาสินค้าเกษตรบางตัวในตลาดโลกปรับตัวดีขึ้น ทำให้ภาคเกษตรฟื้นตัว, การลงทุนและการใช้จ่ายของภาครัฐ การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม มีความชัดเจนมากขึ้น รวมถึงมีงบกลางปีกว่า 1.9 แสนล้านบาทที่จะเบิกจ่ายในพื้นที่ต่างจังหวัด อย่างไรก็ตาม การบริโภคเอกชนที่ขยายตัวได้ต่อเนื่องมีอัตราชะลอลง เนื่องจากมาตรการกระตุ้นการจับจ่ายช่วงปลายปีทำให้มีการบริโภคล่วงหน้า หนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงเป็นแรงกดดัน ทำให้ประชาชนยังระมัดระวังในการใช้จ่าย เช่นเดียวกับภาคการท่องเที่ยวที่ขยายตัวชะลอลง จากการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญ ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวจีนลดลง แต่จำนวนนักท่องเที่ยวโดยรวมยังเติบโต
ทั้งนี้ เศรษฐกิจไทยยังต้องระวังความผันผวนที่จะเพิ่มขึ้นมากกว่าปีที่ผ่านมา โดยมาจากปัจจัยต่างประเทศเป็นหลัก ทั้งการเปลี่ยนแปลงนโยบายเศรษฐกิจของสหรัฐและมาตรการกีดกันทางการค้า และมาตรการที่ประเทศอื่นจะตอบโต้กลับ เพราะจะส่งผลกระทบการฟื้นตัวเศรษฐกิจและบรรยากาศการค้าและการลงทุน ความเสี่ยงด้านการเมืองในยุโรป และการเจรจาออกจากสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักร การปรับโครงสร้างเศรษฐกิจจีนที่อาจจะทำให้เศรษฐกิจชะลอตัว ขณะที่ในประเทศต้องติดตามผลการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลว่าจะส่งผลมากเพียงใด ความคืบหน้าโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ผลจากมาตรการปราบทัวร์ผิดกฎหมาย รวมทั้งกำหนดการเลือกตั้ง
ในส่วนของ ธปท.จะมีการทบทวนตัวเลขเศรษฐกิจทุกไตรมาส พร้อมทั้งจะดูแลอัตราแลกเปลี่ยนไม่ให้ผันผวนสูง ซึ่งผู้ประกอบการธุรกิจจะต้องมีการป้องกันความเสี่ยง ทั้งนี้ การดำเนินนโยบายการเงินจะผ่อนปรนไม่เป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
