‘บิทคับ กรุ๊ป’ ส่ง Bitkub Chain หนุนโครงสร้างพื้นฐานเศรษฐกิจดิจิทัล-เผยภาพ Metaverse

บิทคับ กรุ๊ป พร้อมส่ง Bitkub Chain ร่วมสร้างโครงสร้างพื้นฐานเศรษฐกิจดิจิทัล ทะยอยเปิดตัวบริษัทมหาชนและบริษัทเทคฯชั้นนำร่วมเป็น Node Validator พร้อมเผยภาพ Bitkub Metaverse ร่วมกับ The Monk Studio ทีมคนไทยผู้เบื้องหลังการสร้างสรรค์งานแอนิเมชั่นระดับโลก

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา คงไม่มีกระแสใดในโลกของผู้ที่นิยมชื่นชอบในสินทรัพย์ดิจิทัลคึกคักไปกว่าการเคลื่อนไหวของ บริษัท บิทคับ บล็อคเชน เทคโนโลยี จำกัด หนึ่งธุรกิจในเครือบิทคับ ผ่านเพจ Bitkub Chain หลังจากมีการเปิดเผยถึงการเริ่มกระบวนการ Erawan Hard Fork เพื่อปรับระบบฉันทามติ (consensus System) จาก POA (Proof of Authority) สู่ POSA (Proof of Stake Authority) ของ Bitkub Chain ซึ่งมี Node Validator เป็นพันธมิตรรวมทั้งสิ้น 21 Node ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นบริษัทที่มั่นคงและได้รับความน่าเชื่อจากประชาชนทั่วไป

อาทิ 

บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (MINT) ผู้นำในการดำเนินธุรกิจระดับสากล โดยประกอบ 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจโรงแรม ธุรกิจร้านอาหาร และธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าไลฟ์สไตล์ MINT ดำเนินธุรกิจโรงแรมทั้งในรูปแบบเป็นเจ้าของเอง บริหารจัดการ และร่วมลงทุน โดยมีโรงแรมและเซอร์วิสสวีทมากกว่า 520 แห่ง 

บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) (SAHAPAT) ประกอบธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคหลากหลายประเภท ผลิตภัณฑ์ของบริษัทแบ่งออกเป็น ผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน ผลิตภัณฑ์อาหาร ผลิตภัณฑ์สุขอนามัยส่วนบุคคล และผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก บริษัทมีช่องทางกระจายสินค้าทั่วประเทศ

บริษัท ทีพีซีเอส จำกัด (มหาชน) (TPCS) ผู้ดำเนินธุรกิจการผลิตและจำหน่ายสินค้าประเภท B2B และ B2C ในหลากหลายหมวดหมู่อุตสาหกรรม โดยประกอบไปด้วย วัตถุดิบจากผ้าไม่ทอสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ (Non-Woven Fabrics for Automotive Industry), วัตถุดิบสิ่งทอทั่วไป (Textile for Industrial Application), ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและสุขอนามัย (Healthcare Products), ผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน (Household Products), ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก (Baby & Kids Products), ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ (Lifestyle Products)

Advertisement

บริษัท สยามราชธานี จำกัด มหาชน (SO) เป็นบริษัทให้บริการจ้างเหมาบริการ (Outsourcing Services) ชั้นนำของประเทศไทย โดยประกอบด้วยธุรกิจหลักดังนี้ SO PEOPLE บริหารจัดการด้านบุคลากร, SO WHEEL บริการรถยนต์ให้เช่าหลากหลายรูปแบบ, SO NEXT บริหารจัดการงานข้อมูลและเอกสารแบบอิเล็กทรอนิกส์, SO GREEN บริหารจัดการงานภูมิทัศน์แบบครบวงจร

บริษัท โปรเอ็น คอปร์ จำกัด (มหาชน) (PROEN) ประกอบธุรกิจให้บริการศูนย์ข้อมูลคอมพิวเตอร์ Internet Data Center, บริการอินเตอร์เน็ตสำหรับองค์กร, บริการ Cloud Service และบริการ ICT Solution, บริการระบบรักษาความปลอดภัย และป้องกันข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต รวมไปถึงการจัดจำหน่ายอุปกรณ์ระบบคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยี สารสนเทศ และให้บริการรับเหมาด้านโทรคมนาคม และสาธารณูปโภคพื้นฐานแบบเบ็ดเสร็จ

Advertisement

บริษัทเอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) (SiS) จำกัด มหาชน ประกอบธุรกิจจำหน่ายสินค้าไอทีให้กับผู้ประกอบการ โดยบริษัทเป็นผู้แทนจำหน่ายสินค้าเทคโนโลยีให้กับผู้ผลิตชั้นนำของโลกกว่า 100 ราย โดยมีเป้าหมายธุรกิจที่จะเป็นผู้นำด้านการนำเทคโนโลยีมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้ผู้บริโภคและหน่วยงานต่างๆ และจำหน่ายสินค้า บริการ ให้กับผู้ประกอบการกว่า 7,000 ราย

บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จํากัด (มหาชน) (ANANDA) ผู้นำด้านการพัฒนาคอนโดมิเนียมบนทำเลศักยภาพติดสถานีรถไฟฟ้าของไทย เพื่อตอบรับความต้องการการใช้ชีวิตคนเมืองได้อย่างไร้ขีดจำกัดด้วยปรัชญา Urban Living Solutions พร้อมดีไซน์ที่โดดเด่น ทันสมัยใหม่ พร้อมตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ากลุ่ม Gen C

บริษัท ทีพีซีเอ็กซ์ จำกัด (TPCX) ดำเนินธุรกิจผ่านการลงทุนในสตาร์อัพ, ลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล, การขุดเหมืองคริปโต (Mining), ระบบการเงินแบบไร้ตัวกลาง (Decentralized Finance หรือ DeFi), สินทรัพย์ที่แสดงความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว (Non-Fungible Token หรือ NFT), จักรวาลนฤมิต (Metaverse) นอกจากนั้น ยังประกอบธุรกิจให้คำปรึกษาด้านการตลาดและการซื้อขายออนไลน์ (Marketing and E-Commerce) โดยมุ่งหวังที่จะเป็น One Stop Service Agency ตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจของโลกอนาคต

Inspex ก่อตั้งโดยทีมงานที่มีประสบการณ์ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์หลากหลายแขนง ซึ่งเป็นผู้ให้บริการ Professional Services และ Security Solutions ที่มีคุณภาพสูงสำหรับ Blockchain และ Smart Contract เพื่อเพิ่มความปลอดภัยของระบบนิเวศของ Blockchain ในวงกว้าง หนึ่งในบริการของทาง Inspex ที่เป็นที่รู้จักกันดี คือ Smart Contract Audit Service ที่ได้ให้บริการกับแพลตฟอร์มชื่อดังบนหลากหลายเครือข่าย อาทิเช่น Alpaca Finance บน BNB Smart Chain และ Fantom Opera, GuildFi บน Ethereum, Saros Finance บน Solana, Thorus บน Avalanche, และ Yuemmai บน Bitkub Chain

Diamon Finance บริษัทที่เชี่ยวชาญด้านดูแลระบบและการซื้อขายบนบล็อกเชน ให้บริการให้ด้านกระจายอำนาจทางการเงินและระบบนิเวศต่างๆ

ซึ่งยังเหลืออีกกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวน Node Validator ที่ยังไม่ได้เปิดเผยออกมา แต่หากมองจากรายนามบริษัทข้างต้นแล้วถือว่าเป็นการเคลื่อนไหวครั้งสำคัญเนื่องจากผู้เข้าร่วมเป็น Node Validator ล้วนเป็นผู้เล่นแถวหน้าในแต่ละอุตสาหกรรม รวมถึงมีฐานลูกค้ารวมถึงพันธมิตรทางธุรกิจอย่างกว้างขวาง ที่สามารถเป็นผู้เข้ามาอยู้ในระบบนิเวศของผลิตภัณฑ์ทางเทคโนโลยีต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นบน Bitkub Chain ในอนาคตได้ ไม่ว่าจะเป็นเกม หรือ NFT

มากไปกว่านั้น เมื่อวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา ทางบิทคับ ยังได้จัดพิธีลงนามความร่วมมือกับ The MONK Studio ผู้สร้างสรรค์งานแอนิเมชั่นและทำ Game Assets ให้กับบริษัทระดับโลก ซึ่งนายสกลกรย์ สระกวี ประธานกรรมการบริษัทกลุ่มบิทคับ ได้เปิดเผยผ่านสื่อส่วนตัวว่าเขาได้ตั้งคำถามกับตัวเองว่า “ถ้าวันนี้ Bitkub อยากจะมี Metaverse กับเค้าบ้าง เป็น Bitkub Metaverse จะเป็นอย่างไร หาก Bitkub สร้าง Metaverse ขึ้นมาสร้างคุณประโยชน์อะไรให้กับ Bitkub หรือให้กับ Community หรือประเทศของเราได้บ้าง? ดังนั้น โจทย์แรกที่เราคิดเลย คือ มันคงจะดีสินะ ถ้า Bitkub Metaverse มันคือการเปลี่ยน Ecosystem ทุกอย่างของ Bitkub , Bitkub Chain เปลี่ยนจาก Web 2.0 ไปอยู่บน Web 3.0

ถ้าลองนึกดูว่าคุณมี NFT บน Bitkub chain ปกติก็คือเก็บไว้ในกระเป๋า Bitkub Next อยู่มาวันหนึ่งเรามี Bitkub Metaverse จะดีแค่ไหนถ้าคุณสามารถสร้าง NFT Gallery บน Bitkub Metaverse เป็นบ้าน เป็นห้องส่วนตัวที่โชว์ NFT ที่เราสะสมไว้ หรือ ถ้าคุณเป็น Partner ของ Bitkub NFT เมื่อเป็น Partner ปกติแล้วสามารถที่จะเปิด NFT Store อยู่บนหน้าเว็บไซต์ bitkubnft.com ได้อยู่แล้ว แต่พอมาอยู่บน Bitkub Metaverse คุณก็จะมี Store ของตัวเอง เป็น Landmark อยู่ใน Bitkub NFT Square ที่ทุกคนเข้ามาซื้อขาย หรือพาร์ทเนอร์เจ้าไหนที่อยากที่จะสร้างตึกของตัวเอง เพื่อสร้างคอมมูนิตี้ของตัวเอง ก็สามารถเข้ามาจับจองซื้อที่ดินใน Bitkub Metaverse เพื่อสร้างตึก สร้างสิ่งก่อสร้างได้ ซึ่งโปรเจกต์ทั้งหมดที่อยู่ใน Bitkub Chain สามารถเข้ามาเชื่อมอยู่บน Bitkub Metaverse หรือแม้แต่ตัว NFT อย่าง Bittoon , NFT ต่างๆ หรือไอเท็มแต่งตัวในเกม Morning Moon ก็จะสามารถมาโลดแล่นอยู่บน Bitkub Metaverse ได้ อีกทั้ง ยังมี Function อื่นๆ ที่ Metaverse ต้องมี คือ ห้องประชุม ห้องสังสรรค์ ห้องอีเว้นท์ คอนเสิร์ต”

นอกจากนั้นแล้ว นายจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบิทคับ ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ Money Matter ร่วมกับ ‘พอล-ภัทรพล ศิลปาจารย์’ ในหัวข้อ “3 ปีต่อจากนี้ Metaverse จะเปลี่ยนธุรกิจและการเงินของเราอย่างไร” โดยสรุปได้ว่า

“หลังจากโควิดจะเห็นได้ว่าเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy) เติบโตอย่างมหาศาล โดยปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ได้เกิดขึ้นทั่วโลก ประเทศของเราต้องเน้นลงทุนในเศรษฐกิจดิจิทัล โดยเร่งสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางด้านดิจิทัล (Digital Infrastructure) ให้เร็วเพื่อที่จะให้ไทยไม่พลาดโอกาสเหมือนในยุค Web 1.0 หรือยุค Web 2.0 ที่ผ่านมา หลายครั้งความต้องการควบคุมของรัฐเป็นอุปสรรคในการพัฒนาเนื่องจากเน้นออกกฎหมายควบคุมมากกว่าที่จะศึกษาถึงโอกาสใหม่ๆและให้การสนับสนุน ทำให้ไทยตกเป็นผู้ใช้เทคโนโลยีมากกว่าเป็นผู้สร้างหรือให้บริการเทคโนโลยี ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าเสียดายที่ทำให้ความมั่งคั่งจะเกิดขึ้นจากบริษัทเทคโนโลยีไปเกิดที่ต่างประเทศ ซึ่งการสนับสนุนจากภาครัฐจะช่วยให้เกิดการเข้าถึงโอกาสของคนส่วนใหญ่มากขึ้น จะทำอย่างไรที่ทำให้คนไทยที่เก่งกล้าออกมาเปิดสตาร์ทอัพของตัวเองแทนที่จะเกิดการสมองไหลไปทำงานให้บริษัทต่างชาติ

“ศักยภาพของคนไทยนั้นไม่ได้แพ้ต่างชาติเลย ยกตัวอย่างเช่น ครีเอเตอร์ ศิลปิน NFT ชาวไทยสามารถขายงานศิลปะ NFT บนแพลทฟอร์มระดับโลกได้หลักหลายสิบ หลายร้อยล้านบาท รวมถึงยังมีนักพัฒนาที่มีความสามารถอีกมาที่สามารถเข้ามาสร้าง DApps หรือ De-Fi ได้ นอกจากการมุ่งให้ Bitkub Chain เป็น Blockchain Infrastructure ของประเทศแล้ว ยังมี Bitkub Ventures ที่จะเป็นอีกหนึ่งบริษัทลูกที่จะลงทุนให้กับสตาร์ทอัพไทยได้มีโอกาสสร้างสรรค์ธุรกิจใหม่และโอกาสใหม่ๆให้กับประเทศได้”

การเข้าร่วมเป็น Node Validator บน Bitkub Chain ขององค์กรชั้นนำทั้ง 21 แห่งในครั้งนี้นับเป็นการเคลื่อนไหวครั้งสำคัญของวงการธุรกิจและเทคโนโลยี เนื่องจากการที่บริษัทมหาชนที่มีความน่าเชื่อถือ มีธุรกิจหลากหลาย และมีฐานลูกค้าเป็นจำนวนมากได้ให้ความไว้วางวางใจและมองเห็นโอกาสของเทคโนโลยีบล็อกเชน โดยกลุ่มบริษัทบิทคับแล้วนั้น คาดว่าในอนาคตจะสามารถทำให้เกิดการประยุกต์ใช้และยอมรับในวงกว้าง (Mass Adoption) มากยิ่งขึ้น รวมถึงการสร้าง Bitkub Metaverse จะเป็นการสร้างอีกหนึ่งแพล็ตฟอร์มที่ทำให้เกิดการสร้างโอกาสใหม่ทางธุรกิจ สร้างเศรษฐกิจดิจิทัลที่จะก่อให้เกิดผลประโยชน์ต่อประเทศและคนรุ่นใหม่อย่างมหาศาล

ทั้งนี้ จะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการในวันที่ 29 มีนาคม 2565 ที่จะถึงนี้ ณ โรงแรม คอนราด ถ.วิทยุ กรุงเทพมหานคร ผู้ที่สนใจสามารถติดตามการถ่ายทอดสดงานแถลงข่าวและข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เฟสบุ๊คแฟนเพจ Bitkub Chain หรือเว็บไซต์ www.bitkubchain.com

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image