นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าการขายกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์) หลังจากหารือร่วมกับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ว่า จะเตรียมยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ของไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในเดือนกรกฎาคมนี้ และจะทำการสำรวจความต้องการซื้อหลักทรัพย์ของนักลงทุนสถาบันเพื่อกำหนดราคาและขนาดของกองทุน คาดว่าจะมีนักลงทุนสถาบันในประเทศสนใจ เช่น ธุรกิจประกัน ซึ่งต้องการลงทุนในสินทรัพย์ที่ได้ผลตอบแทนอยู่ในเกณฑ์ดีในระยะยาว มีความน่าเชื่อถือ ซึ่งโครงการนี้เป็นโครงการลงทุนระยะยาวโดยกองทุนฯ มีรายได้จากค่าผ่านทางของการทางพิเศษแห่งประเทศไทยในโครงการทางพิเศษฉลองรัช (รามอินทรา-อาจณรงค์) และทางพิเศษบูรพาวิถี (บางนา-ชลบุรี) เมื่อระดมทุนได้จะนำไปลงทุนในโครงการ ทางด่วนพิเศษสาย พระราม 3-ดาวคะนอง และทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือตอน N2 เส้นถนนประเสริฐมนูกิจ (เกษตร-นวมินทร์) ขณะที่ประชาชนทั่วไปคาดว่าจะมีความสนใจลงทุนในกองทุนฯ เช่นกัน จะมีเปิดให้รายย่อยจองซื้อในช่วงเดือนกันยายน โดยยืนยันว่าจะไม่มีการเลื่อนแน่นอน เพราะนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ลงมาเคาะด้วยตนเอง
นายอภิศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับเฟสต่อไป จะนำรายได้ค่าผ่านทางทางมอเตอร์เวย์ สาย 7 (กรุงเทพฯ – ชลบุรี) และสาย 9 (วงแหวนรอบนอกด้านตะวันออก) ของกรมทางหลวง มูลค่าโครงการกว่าแสนล้านเข้ามาระดมทุนเพิ่มสินทรัพย์ให้กับกองทุนฯ โดยกรมทางหลวงอยู่ระหว่างการแก้ไขกฎหมายคาดว่าจะแล้วเสร็จในหนึ่งเดือน หรือหนึ่งเดือนครึ่งนี้ ก่อนจะเสนอตือคณะรัฐมนตรีต่อไป นอกจากนี้ ระยะต่อไปจะนำโครงการด้านพลังงาน หรือโครงการอื่น ๆ ที่รัฐเคยลงทุนไว้แล้วยังสามารถนำเข้ากองทุนฯ ได้ โดยอยู่ในแผนงานที่วางไว้อยู่แล้ว
“การลงทุนของภาครัฐจะไม่ได้ใช้งบประมาณเพียงอย่างเดียว จะมีทั้งเงินงบประมาณ หรือใช้เงินกู้ และให้เอกชนร่วมลงทุน ทั้งโครงการร่วมลงทุน(พีพีพี) และการระดมทุนจากตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งหากรัฐใช้เงินลงทุนจากไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ภาระหนี้ของรัฐก็จะไม่เพิ่มขึ้นเป็นการรักษาวินัยการเงินการคลัง” นายอภิศักดิ์ กล่าว
