นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้มีผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคบางยี่ห้อ ในกลุ่มแชมพู สบู่เหลว น้ำยาซักผ้า น้ำยาปรับผ้านุ่ม ผลิตภัณฑ์ล้างจาน ยาสีฟัน และผงซักฟอก เป็นต้น ได้ทำหนังสือถึงกรมฯขอออกผลิตภัณฑ์ใหม่ด้วยการลดขนาดบรรจุภัณฑ์และลดปริมาณสินค้า แต่ยังขอจำหน่ายสินค้าในราคาเดิม โดยให้เหตุผลว่าสินค้ามีคุณภาพดีขึ้น มีศักยภาพมากขึ้น แต่หลังจากที่กรมฯได้ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พบว่า สินค้าไม่ได้แตกต่างจากของเดิม จึงไม่ได้อนุมัติให้มีการดำเนินการตามที่ผู้ผลิตขอมา
“การกระทำดังกล่าว กรมฯมองว่าเป็นการขึ้นราคาสินค้าแบบเลี่ยงกฎหมาย ที่ผ่านมาผู้ประกอบการมักใช้วิธีการนี้ลดขนาดแล้วอ้างเป็นสินค้าตัวใหม่ สินค้าพรีเมี่ยม แล้วปรับขึ้นราคา หรือคงราคาเดิมแต่ขนาดลดลง ซึ่งตอนนี้ไม่สามารถทำได้แล้ว ถ้าทำจะผิดกฎหมาย ที่สำคัญ การจะลดขนาดหรือทำสินค้าตัวใหม่ต้องทำเรื่องแจ้งมายังกรมฯ ก่อน หากพบว่าต้นทุนและคุณภาพสินค้าไม่ต่างตัวเดิม จะไม่อนุมัติ ถ้าลดขนาดต้องลดราคาเพื่อความเป็นธรรมแก่ผู้บริโภค ซึ่งกรมฯไม่ได้ปิดกั้นว่าจะไม่ให้ผู้ผลิตทำการปรับลดขนาดหรือปริมาณสินค้า หากผู้ผลิตจำเป็นหรือต้นทุนสูงขึ้นจริง เสนอรายละเอียดต้นทุนที่ชัดเจนและสมเหตุสมผล กรมฯจะพิจารณาให้ ”
หากประชาชนพบเห็นหรือไม่ได้รับความเป็นธรรมในการบริโภคสินค้า หรือพบเห็นสินค้ามีการปรับลดขนาดหรือปริมาณบรรจุ ให้ร้องเรียนได้ที่สายด่วน 1569 กรมฯ จะจัดส่งเจ้าหน้าที่ออกไปตรวจสอบ และดำเนินการให้ หากพบว่ามีการกระทำความผิดจริง ก็จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบสินค้าในท้องตลาด พบว่า ผู้ผลิตมักจะใช้วิธีการปรับลดปริมาณสินค้าหรือขนาดบรรจุลงมา เพื่อให้สามารถจำหน่ายสินค้าได้ในราคาเดิม โดยอ้างว่ามีต้นทุนสูงขึ้น ทำให้ผู้บริโภคโดนเอาเปรียบ เพราะจ่ายเงินเท่าเดิม แต่ได้รับปริมาณสินค้าลดลง โดยปัญหาที่เคยเกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา คือ การปรับลดขนาดบรรจุจาก 1,000 ซีซี เหลือ 900 ซีซี และลดเรื่อยจนเหลือ 700-750 ซีซี ในปัจจุบัน ส่วนขนาด 500 ซีซี ก็ลดเหลือ 400-450 ซีซี และล่าสุด มีรายงานว่าใช้บรรจุภัณฑ์ขนาดเท่าเดิม แต่ลดน้ำหนักด้านใน จากเดิม 100 ซีซี เหลือ 70 ซีซี เท่ากับปริมาณหายไป 30%
