สะพัดเจ้าของเรือฟีนิกซ์เป็นนอมินี ล่าสุดเผ่นหนีออกนอกประเทศแล้ว

แหล่งข่าวจากผู้ประกอบการโรงแรมและการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตเปิดเผยว่า หลังจากที่เกิดเหตุอุบัติเหตุเรือล่มในน่านน้ำจังหวัดภูเก็ตและมีกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนเสียชีวิตและสูญหายเป็นจำนวนมากเมื่อค่ำวันที่ 5 กรกฎาคมนั้นพยายามติดตามข้อมูลข่าวสารในเรื่องนี้อย่างต่อเนื่องและเชื่อว่าบริษัทที่ประกอบการท่องเที่ยวทางทะเลหรือทัวร์จีนนำเรือที่ชื่อฟีนิกซ์มาประกอบการเป็นนอมินีของจีนอย่างแน่นอน คือมีบริษัทหลานเมาเป็นบริษัทแม่ที่อยู่ในประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน และมีการขยายกิจการทำทัวร์มาถึงจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดใกล้เคียง แต่เมื่อเปรียบเทียบกับเรืออีกลำหนึ่งคือเรือเซเรเนต้า นั้นพบว่าการประกอบการในรูปบริษัทผู้เกี่ยวข้องปฏิบัติตามกฎระเบียบของราชการไทยคือคนไทยมีหุ้น 51% และนักธุรกิจจีน 49%

แหล่งข่าวกล่าวด้วยว่าทราบข้อมูลจากวงการท่องเที่ยวเป็นการทั่วไปว่า ในขณะนี้เจ้าของบริษัทเรือฟินิกซ์ในการประกอบการท่องเที่ยวทางทะเลซึ่งเป็นคนจีนได้หลบหนีกลับประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นบริษัทนี้จึงน่าเป็นห่วงโดยเฉพาะอย่างยิ่งค่าประกันชีวิตรายละ 1 ล้านบาทครอบคลุมถึงการลำเลียงศพกลับประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนหรือไม่อย่างไร รายการชดใช้เกี่ยวกับการประกันชีวิตนั้นการจะเอาไปกันคงไม่ได้หมดทุกรายเนื่องจากข้อเท็จจริงคือบริษัทนี้ได้แจ้งให้นักท่องเที่ยวชาวจีนเมื่อจะเดินทางท่องเที่ยวจะต้องซื้อประกันการเดินทางเพิ่ม แต่นักท่องเที่ยวหลายคนไม่ได้ซื้อประกันเพิ่มอย่างแน่นอน

“หลังจากที่เกิดอุบัติเหตุเรือล่มและมีผู้เสียชีวิตสูญหายจำนวนมากผู้ที่เกี่ยวข้องในบริษัทเรือฟีนิกซ์เขาเหมือนกับมีอาการช็อกแทนที่ว่าเหตุใหญ่แบบนี้จะมีทนายความมาพูดแทนและฐานะบริษัทเอกชนที่ต้องรับผิดชอบผู้เสียชีวิตตามขั้นตอนที่มีการประกัน 1 ล้านบาทต่อคน ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ผู้ประกอบการภาคเอกชนจะต้องรับผิดชอบอย่างเต็มที่แต่ในข้อเท็จจริงแล้วจะสามารถรับได้มากน้อยเพียงใด และบริษัทจะต้องรับผิดชอบค่าเสียหายทุกอย่างหากมีเงินไม่พอจ่ายจะทำอย่างไร ในเมื่อนักธุรกิจชาวจีนที่อยู่เบื้องหลังได้เดินทางหลบหนีกลับประเทศไปแล้วในลักษณะของการประกอบการของธุรกิจท่องเที่ยวจีนมีแพลตฟอร์มแพคเกจทัวร์ขายที่เป็นเอกลักษณ์ของประเทศนี้ เช่นมีเว็บไซต์ในการจำหน่ายทัวร์หรือลักษณะการใช้ VPN,WeChat” แหล่งข่าวกล่าวและว่า ในฐานะที่อยู่ในแวดวงธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรมมานานพอสมควรมีการติดต่อสอบถามเพื่อนร่วมอาชีพและหลายฝ่ายให้ข้อมูลที่ชัดเจนตรงกันว่ากรณีเรือนำเที่ยวที่ชื่อว่า ฟีนิกซ์เป็นการทำธุรกิจที่มีนอมินีเป็นคนไทยและไม่ใช่เฉพาะบริษัทนี้เท่านั้นที่ผ่านมาบริษัทนำเที่ยวที่มีชาวจีนเป็นเงินทุนเบื้องหลังมีการว่าจ้างพนักงานเพื่อสำรองหรือจองที่พักโรงแรมและยังมีพนักงานชาวจีนที่พูดภาษาจีนมาร่วมด้วยและสามารถยืนยันได้ว่ามีทุนมาร่วมจากประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน กลุ่มทุนนี้พวกเขามากดดันด้านต้นทุน ใช้เรือลำเกิดเหตุมารองรับนักท่องเที่ยวอย่างไม่เหมาะสม

ข่าวแจ้งว่าบริษัท ทีซี บลูดรีม จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 43/84 หมู่ที่ 5 ตำบลราไวย์ อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต เป็นผู้ประกอบการและเจ้าของเรือฟีนิกซ์ จดทะเบียนในปี 2559 ด้วยทุน 4,000,000 บาท นางสาววรลักษณ์ ฤกษ์ชัยกาล เป็นเจ้าของกิจการและในที่ประชุมผู้ถือหุ้น เมื่อเดือนกรกฎาคม 2560 ยังมีผู้ถือหุ้นนามสกุลเดียวกันอีก 2 คน คือ นายจักรพันธ์ ฤกษ์ชัยกาล และนางยินดี ฤกษ์ชัยกาล

Advertisement

ในส่วนของการแจ้งสินทรัพย์ประกอบไปด้วยที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ รวมทั้งเรือฟีนิกซ์ ลำเกิดเหตุมีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 18.4 ล้านบาท ในขณะที่มีการแจ้งมีหนี้สินเท่ากัน คือ 18.4 ล้านบาท ในปี 2559 แจ้งขาดทุนสุทธิ 13,000บาท ส่วนปี 2560 แจ้งมีรายได้รวม 2,500,000 บาท แต่เมื่อหักหนี้สินมีกำไร
250,000 บาท

นอกจากนี้ นางสาววรลักษณ์ ฤกษ์ชัยกาล ยังเป็นกรรมการบริษัท 3 แห่งคือบริษัท ทีซีทู จำกัดจดทะเบียน เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2561 ด้วยทุน 4,000,000 บาท , บริษัทหลี่แอนด์เจิง จำกัด จดทะเบียนวันเดียวกันและทุนเท่ากัน 4,000,000บาท ประกอบกิจการรีสอร์ตและห้องชุด เหมือนกันทั้งสองบริษัทใช้ที่ตั้งเลขที่ 123/23 ตำบลตลาดเหนือ อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ตส่วนบริษัทที่สามอยู่ในท้องที่จังหวัดชลบุรี

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image