เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 43 หมู่ 11 ชุมชนโนนสำราญ ต.หญ้าปล้อง อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นบ้านของ ยายทองคำ ไชยชาญ อายุ 75 ปี ที่ป่วยเป็นมะเร็งระยะที่ 4 ผ่าตัดมาแล้ว 2 ครั้ง และเป็นแกนนำตัวแทนชาวบ้านในเขตโนนป่ายาง จำนวน 8 หมู่บ้าน ในเขต 2 ตำบล คือ ต.หญ้าปล้อง กับ ต.หนองไผ่ อ.เมืองศรีสะเกษ ซึ่งมีชาวบ้านอาศัยอยู่กว่า 20,000 คน โดยได้มีการเรียกร้องที่ดินทำกินในบริเวณเขตโนนป่ายาง ซึ่งชาวบ้านอยู่อาศัยและทำกินมานานหลายชั่วอายุคน ขณะนี้ชาวบ้านกำลังพากันหวาดกลัวเนื่องจากมีข่าวว่า ทางราชการประกาศจะดำเนินคดีกับชาวบ้านกว่า 20,000 คน ที่อาศัยในเขตโนนป่ายาง ว่าบุกรุกที่สาธารณะประโยชน์ โดยยายทองคำได้นำชาวบ้านเรียกร้องที่ดินทำกินบริเวณนี้มานานหลายสิบปีแล้ว แต่ไม่ได้รับการช่วยเหลือ แก้ไขปัญหาจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้องแต่อย่างใด
ยายทองคำกล่าวว่า เมื่อปี 2468 โนนป่ายางได้ถูกราชการขีดเส้นเอาพื้นที่โนนป่ายาง จำนวน 4,125 ไร่ เป็นที่สาธารณะประโยชน์ และได้เตรียมดำเนินคดีกับชาวบ้าน 8 หมู่บ้าน ว่าบุกรุกที่สาธารณะประโยชน์ ล่าสุด เมื่อวันที่ 14 ก.ค. ตัวแทนชาวบ้านเขตโนนป่ายางกว่า 500 คนได้มาร่วมชุมนุมกันที่ศาลาวัดบ้านโนนแย้ และมีมติว่า ให้ทางราชการมีการตรวจสอบว่า พื้นที่โนนป่ายาง 4,125 ไร่ มีขอบเขตอยู่ที่ใด เนื่องจากว่า ขณะนี้ทางราชการระบุว่า โนนป่ายางมีเนื้อที่เพียง 1,531 ไร่เท่านั้น แล้วที่ดินจำนวน 2,594 ไร่หายไปไหน โดยบรรดาชาวบ้านกว่า 20,000 คน ได้นัดหมายกันว่า ในวันที่ 17 ก.ค.นี้ จะพากันเดินเท้าไปที่ศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อติดตามความคืบหน้าการแก้ปัญหานี้ตามที่ชาวบ้านได้ยื่นข้อเสนอไปแล้ว และจะพากันเดินเท้าไปที่ จ.อุบลราชธานี เพื่อพบกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อขอความช่วยเหลือ แก้ไขปัญหาโนนป่ายางที่ยืดเยื้อมานานร่วม 100 ปีแล้ว
ยายทองคำกล่าวต่อว่า หากทางราชการยืนยันว่าจะเอาพื้นที่โนนป่ายาง 4,125 ไร่ เป็นที่สาธารณะประโยชน์ทั้งที่ชาวบ้านอยู่อาศัยทำกินมาก่อนปี 2468 แล้วทางราชการจะให้ชาวบ้าน 8 หมู่บ้าน ในเขต 2 ตำบล กว่า 20,000 คนไปอยู่ที่ไหน หรือว่าหากจะจับกุมชาวบ้าน จะเอาชาวบ้านกว่า 20,000 คนไปขังไว้ที่ไหน เนื่องจากชาวบ้านอาศัยที่ดินผืนนี้ซุกหัวนอนมานานหลายชั่วอายุคน หากโดนขับไล่จากโนนป่ายาง ตนและคณะจะนำชาวบ้านพร้อมทั้งวัว ควายไปอาศัยอยู่ที่ศาลากลาง จ.ศรีสะเกษ และอาศัยสถานที่ราชการเป็นที่ซุกหัวนอน หากศาลากลาง จ.ศรีสะเกษเต็มพื้นที่แล้ว จะพากันไปอาศัยนอนที่หน้าทำเนียบรัฐบาลต่อไป
ยายทองคำ กล่าวต่อว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ ตนและคณะได้ประชุมร่วมกับข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของกระทรวงแห่งหนึ่งและข้าราชการระดับสูงของ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งตนและคณะ ได้ชี้แจงเหตุผลความต้องการไปแล้วว่า ต้องการให้มีการตรวจสอบเขตพื้นที่โนนป่ายาง 4,125 ไร่ และคัดค้านการที่จะให้มีการตรวจสอบสิทธิ์ของชาวบ้านทุกคนในเขตโนนป่ายาง จนกว่าจะมีการตรวจสอบพื้นที่เสียก่อน ซึ่งผู้ใหญ่ระดับกระทรวงและระดับ จ.ศรีสะเกษ ได้รับปากว่าจะแจ้งผลการแก้ไขปัญหาภายในวันที่ 20 ก.ค. นี้ ดังนั้น การที่พวกตนนัดหมายรวมตัวกันจะเดินเท้าไปยังศาลากลาง จ.ศรีสะเกษ ในวันที่ 17 ก.ค. จะเลื่อนกำหนดออกไปก่อน หากว่าวันที่ 20 ก.ค. ยังไม่ได้รับการแก้ไขปัญหาตามที่สัญญาไว้ พวกตนจะนำชาวบ้านโนนป่ายางกว่า 20,000 คน เดินเท้าจาก จ.ศรีสะเกษ ไปยัง จ.อุบลราชธานี โดยจะออกเดินเท้าในวันที่ 22 ก.ค. เพื่อขอความช่วยเหลือจาก พล.อ.ประยุทธ์ ในวันที่ 24 ก.ค. ในการประชุม ครม.สัญจร เพราะว่าส่วนราชการระดับจังหวัดไม่สามารถที่จะให้การช่วยเหลือได้แล้ว ทั้งนี้ เพื่อเป็นการขอให้นายกฯ ใช้อำนาจ ม.44 แก้ไขปัญหาที่อดีตนักการเมืองท้องถิ่นและอดีตข้าราชการบางคนสร้างตราบาปให้กับชาวบ้านโนนป่ายางจนเป็นปัญหาเรื้อรังถึงทุกวันนี้
