จากกรณีมีการเผยแพร่คลิปกลุ่มครูบางส่วนใน จ.มหาสารคาม รวมตัวกันทำปฏิญญามหาสารคาม ประกาศคว่ำบาตรไม่จ่ายเงินกู้ ช.พ.ค.กับธนาคารออมสิน โดยในคลิปวิดีโอดังกล่าว มีเนื้อหาขอให้รัฐบาลและธนาคารออมสิน พักหนี้โครงการ ช.พ.ค.ทุกโครงการ ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2561 เป็นต้นไป โดยลูกหนี้ ช.พ.ค.จำนวน 450,000 คน จะดำเนินการยุติการชำระหนี้กับธนาคารออมสิน ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. เป็นต้นไป ทำให้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมเป็นวงกว้าง
กรณีดังกล่าว เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม นางสงัด ท้าวนอก อายุ 85 ปี ข้าราชการครูบำนาญ ใน อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับการประกาศปฏิญญาดังกล่าว เพราะมองว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ทุกคนที่เป็นหนี้ ไม่ว่าเป็นใคร ก็ต้องชำระหนี้ตามกฎหมาย โดยเฉพาะข้าราชการครู ถือเป็นพ่อพิมพ์แม่พิมพ์ที่ต้องเป็นแบบอย่างที่ดีแก่สังคม แต่กลับมาแสดงออกแบบนี้ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สมควร ถึงแม้การประกาศขอให้พักชำระหนี้ได้เมื่อเกษียณอายุราชการหรือว่าเสียชีวิตจะได้เงินส่วนหนึ่งจากสหกรณ์ออมทรัพย์ครูก็จะโดนหักไม่ถึงลูกหลานอยู่ดี
นางสงัดกล่าวต่อว่า สมัยยังรับราชการอยู่ ก็เคยกู้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูและธนาคารออมสินมาเช่นเดียวกัน เพื่อนำมาซื้อบ้านและที่ดิน ซึ่งจะใช้วิธีผ่อนชำระต่อเดือนที่ค่อนข้างสูง เพื่อที่ยอดหนี้จะได้หมดโดยเร็ว แต่ทางสหกรณ์เคยยืดระยะเวลาผ่อนชำระ 200-300 เดือน แต่ทางครูไม่รับข้อเสนอ เนื่องจากมองว่ายิ่งยืดระยะเวลาไป ดอกเบี้ยก็จะเพิ่มขึ้น แต่จะต้องมีวินัยทางการเงิน จึงหารายได้พิเศษทางอื่น ซึ่งตนก็มีฝีมือในการทำขนม ข้าวต้มมัดและกล้วยตาก ถึงแม้จะเหนื่อย แต่เมื่อเกษียณอายุราชการแล้วก็ไม่ต้องคอยมากังวลกับหนี้สินที่ติดตัวมาในสมัยรับราชการ
