แม่สุดช้ำลูกชายวัย 12 ขวบ ถูกรุ่นพี่ ‘ถีบ-เตะ’ จนอวัยวะเพศเขียวช้ำ เล็งร้อง ‘กองการกีฬา’สอบ

เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม นางรชต คำรอด อายุ 45 ปี แม่ของเด็กชายวัย 12 ขวบ นักเรียนชั้นม.1 โรงเรียนกีฬากรุงเทพมหานคร สังกัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ลูกชายเป็นนักกีฬาว่ายน้ำ เป็นนักเรียนอยู่หอประจำโรงเรียน เริ่มเปิดเรียนวันที่ 1 พฤษภาคม 2561 ปรากฏว่าเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2561 ถูกทำร้ายร่างกาย มาทราบตอนไปรับลูกกลับบ้านในวันเสาร์ที่ 23 มิถุนายน พบรอยหยิกที่แขนและอวัยวะเพศลูกชายเขียวช้ำ สอบถามลูก ไม่ยอมตอบ คาดคั้นอยู่นานถึงยอมบอกว่าถูกพี่เขาตีเข่า ถามถึงรอยหยิกว่าเป็นฝีมือของคนเดียวกันหรือไม่ ลูกบอกว่าเป็นคนเดียวกัน ตั้งใจจะไม่ส่งเข้าหออีก แต่ลูกอยากกลับไปเรียน และบอกว่าดูแลตัวเอง ตนเลยพาลูกไปลงบันทึกประจำ ยังไม่แจ้งความ กระทั่้งเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคมที่ไปรับลูกที่หอพักโรงเรียน พบรอยเขียวช้ำทั้งที่ไหล่ สอบถามลูกไม่ยอมบอก ไม่ยอมสบตา บอกแค่ว่าไม่มีอะไร ไม่ระวังเอง บอกว่ายังอยากไปโรงเรียน แต่วันนี้จู่ๆ ลูกขอไม่อยู่โรงเรียนนี้อีก เลยสอบถามลูกว่าเกิดอะไรขึ้น ลูกเหมือนโดนขู่มาเพราะไม่บอกรายละเอียดอะไรมากนัก บอกแค่ว่าโดนรุ่นพี่ถีบ ล้มไปฟาดเตียงเหล็ก โดนถีบ 2 ครั้ง ก็เลยพาลูกไปหาหมอ พาลูกไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาล หมอแนะนำให้มาพบนิติเวชอีกครั้งในวันพุธที่ 1 สิงหาคม เพื่อเอาใบตรวจสุขภาพประกอบการแจ้งความ โดยตนตั้งใจจะพาลูกไปพบนิติเวชที่โรงพยาบาลนครธน วันที่ 1 สิงหาคมนี้ และวันนี้ได้พาลูกไปที่สน.ดินแดงแล้ว หลังจากที่ตำรวจคุยกับเด็ก ตำรวจบอกเหมือนที่ตนคิดคือเด็กเหมือนถูกข่มขู่มาเพราะไม่ยอมให้ความร่วมมือตอบคำถาม และตำรวจบอกว่าน่าจะโดนทำร้ายไม่ใช่แค่ 2 ครั้งน่าจะมากกว่าครั้ง

“ตอนนี้รอไปพบนิติเวช เพื่อนำใบตรวจสุขภาพมาประกอบการแจ้งความ ทั้งนี้อยากให้เด็กที่ทำร้ายลูกชายมาขอโทษพร้อมด้วยพ่อแม่ ก็จะไม่แจ้งความ เพราะถือว่ายังเป็นเด็ก ให้เวลามาขอโทษถึงวันที่ 1 สิงหาคม ไม่เช่นนั้นจะแจ้งความดำเนินคดี” นางรชต กล่าวและว่า ตนติดใจครูที่ดูแลลูกชายว่าทำไมถึงไม่ใส่ใจ เพราะลูกเป็นนักกีฬาว่ายน้ำ ถอดเสื้อก็ต้องเห็นรอยเขียวช้ำอยู่แล้ว แต่นี่ไม่ใส่ใจ เมื่อวาน(27 ก.ค.) ตนจึงได้โทรไปหารองผู้อำนวยการโรงเรียนเพื่อแจ้งว่าจะขอยุติการเป็นนักเรียนของลูกชายในโรงเรียนนี้ โดยวันที่ 31 กรกฎาคมที่เปิดทำการราชการ จะไปลาออกจากโรงเรียน พร้อมกันนี้ในวันที่ 31 กรกฎาคม จะร้องเรียนกองการกีฬา ให้ตรวจสอบครูด้วยที่ไม่เอาใจใส่ดูแล ปล่อยให้เกิดเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายขึ้น ส่วนเรื่องโรงเรียนที่ใหม่ของลูกนั้น การออกกลางเทอม อาจหาที่ใหม่ได้ยากเพราะเป็นช่วงกลางเทอม ดังนั้นตนคิดว่าอาจจะไปร้องเรียนผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อขอให้ช่วยจัดหาที่เรียนให้เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความผิดของลูกชาย

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าในเฟซบุ๊กประเวศ นิศากร ยังได้ลงภาพพร้อมเรื่องราวโดยละเอียดด้วย โดยมีข้อความดังนี้

#ลูกถูกทำร้ายร่างกายในโรงเรียน
#โรงเรียนกีฬากรุงเทพมหานคร
#กีฬาว่ายน้ำ
#88วันกับประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืม

Advertisement

88 วัน
ที่ลูกก้าวเข้ามาอยู่ในรั้วโรงเรียนกีฬา กทม.
คาดหวังอย่างยิ่งว่า
ณ.ที่แห่งนี้ ลูกจะเรียนรู้อย่างมีความสุข
ไม่เคยคิดมาก่อนว่า…
ส่งลูกมาเรียนที่แห่งนี้แล้ว
ลูกจะต้องโดนคนในรั้วเดียวกัน
ในคราบนักเรียนรุ่นพี่ทำร้ายร่างกาย
ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า
ลูกจะต้องถูกทำร้ายร่างกาย
และโดนคุกคามจิตใจขนาดนี้
แม่รู้สึกผิดเหลือเกิน
ลูกสอบเข้าโรงเรียนกีฬา กทม.ดินแดง
สอบเข้ามาในชนิดกีฬา #ว่ายน้ำ
ลูกมาอยู่โรงเรียนประจำ กิน-นอนที่นี่
จะรับกลับได้แค่ เสาร์ ส่ง วันอาทิตย์
เหตุการณ์เหมือนจะปกติ แต่ ไม่ปกติ
ผู้ปกครองบางคน เริ่มมีการจับกลุ่มพูดคุยกัน
เรื่อง การซ้อมว่ายน้ำของลูกๆนักกีฬา
เห็นว่าการซ้อมไม่เต็มที่
ไม่เป็นไปในทิศทางที่ควรจะเป็น
เริ่มมีปรึกษาพูดคุยกันในกลุ่มเล็กๆ
แต่ก็ไม่มีใครกล้าที่จะเสนอเรื่องกับทางโรงเรียน
เพราะกลัวผลกระทบจะตกที่ลูก
จนในที่สุด…
มีผู้ปกครองบางคนนำเรื่องราวปัญหา
ไปปรึกษาทางเพจ ทางสื่อ social
เมื่อเรื่องราวปัญหาถูกตีแผ่สู่สังคม
เกิดกระแสไม่พอใจของกลุ่มศิษย์เก่า
มีการ Comment อาฆาตจากรุ่นพี่ศิษย์รุ่นก่อน
พอมีการ Comment คุกคามเกิดขึ้น
มีการตามล่าขุดคุ้ยหาว่า
ผู้ปกครองของเด็กคนไหนที่ออกมาร้องเรียนเพจ
พอเกิดเหตุการณ์แบบนี้
ผู้ปกครองกลุ่มเล็กๆที่รวมตัวกัน เริ่มกลัว
กลัวจะได้รับอันตรายตามคำขู่ของศิษย์เก่า
กลัวผลกระทบจะไปตกที่ลูก
กลัวลูกได้รับอันตราย
ผู้ปกครองเลยขอยุติการร้องเรียนออกสื่อ
ขออยู่เงียบๆแล้วให้ทุกอย่างดำเนินไปเรื่อยๆ
แต่เราเล็งเห็นว่า เรื่องมันมาถึงขนาดนี้แล้ว
ผู้ปกครองคนไหนถอย ไม่เป็นใร
เราจะเป็นตัวแทนผู้ปกครอง เข้าพบ ผอ.โรงเรียน
เพื่อเอาคำตอบและพูดคุยกันถึงปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้น
20 มิถุนายน 2561
เราพร้อมตัวแทนเพจและนักข่าว ช่อง 8
เดินทางเข้าพบ ผอ.โรงเรียนกีฬากรุงเทพมหานคร
เราแจ้งทาง ผอ.ก่อนว่า…
“ไม่พร้อมจะเปิดเผยตัว เพื่อความปลอดภัยของลูก
ขอนัดพบและพูดคุยกันนอกรั้วโรงเรียน
และขอให้ปิดเป็นความลับเรื่องผู้ปกครองมาพบวันนี้”
สรุปวันนั้น 20 มิถุนายน สถานที่นัดพบ คือ
“กองการกีฬากรุงเทพมหานคร ดินแดง”
ในห้องประชุมที่นัดพูดคุย มี 9 คน
1.ผอ.กองกีฬา กทม.
2.ผอ.โรงเรียนกีฬา กทม
3.รอง ผอ.โรงเรียนกีฬากรุงเทพมหานคร
4.ผู้ปกครอง(ตัวเราเอง)
5.ตัวแทนเพจที่ช่วยเหลือเรื่องนี้
6.ตัวแทนเพจที่ช่วยเหลือเรื่องนี้
7.นักข่าว ช่อง 8
8.ทีมงานนักข่าว ช่อง 8
9.ทีมงานนักข่าว ช่อง 8
ทั้ง 9 คน นั่งในห้องประชุมที่กองการกีฬา
เราย้ำกับทุกคนในห้อง ขอร้องกับทุกคนในห้อง
ว่า เรื่องที่เรามาพูดคุยเพื่อหาทางออกร่วมกันวันนี้
ขอให้ปิดเป็นความลับ เพื่อความปลอดภัยของลูกเรา
วันนั้นที่ร่วมพูดคุยหาทางออกร่วมกัน
ทุกอย่างออกมาเป็นที่น่าพอใจ
ปัญหาต่างๆและทิศทางการฝึกซ้อมของลูกๆ
ทุกเรื่องราวพูดคุยกัน เข้าใจกันด้วยดี
เวลา 15.47 น. เราแยกย้ายกลับบ้าน
ซึ่งวันนั้นลูกเราก็ไม่รู้ว่าเราไปพบ ผอ.
เรากลับมาบ้าน จนถึงวันเสาร์ 23 มิถุนายน
เราไปรับลูกกลับบ้านปกติ
พอเจอหน้าลูก ด้วยสัญชาตญาณของความเป็นแม่
เราสำรวจร่างกายของลูก
ปรากฏว่า ที่แขนของลูกมีร่องรอยโดนหยิก
เราถามลูกว่า “แผลที่แขนโดนอะใรมาลูก”
ลูกตอบว่า “รุ่นพี่หยิกหนูครับแม่”
เราตกใจ ถามลูกไปว่า
“ทำไมถึงหยิกจนเนื้อหลุดแบบนั้น”
ลูกตอบมาว่า
“ตอนโดนหยิกเนื้อไม่หลุดนะแม่
หนูเป็นคนดึงเนื้อออกเองครับ”
แต่ระหว่างที่ลูกตอบโต้เรา ลูกเราผิดสังเกต
ปกติเวลาลูกคุยกับเรา ลูกจะสบตาเราเวลาคุยกัน
แต่วันนั้น ลูกเราก้มหน้าเวลาตอบแม่
เราก็เอาน่า แค่โดนหยิก ไม่อันตรายอะใร
ปล่อยผ่านไปก่อน ก็กลับบ้าน
ระหว่างอยู่ที่บ้าน กิริยาท่าทางลูกเราเปลี่ยนไป
ลูกไม่ค่อยคุยเล่นกับเรา ลูกดูเงียบๆไป
จนถึงวันอาทิตย์ตอนเย็น กำหนดไปส่งลูกที่โรงเรียน
ก่อนออกจากบ้าน เราดูลูกผิดสังเกตุมากเกินไป
เลยเรียกลูกเข้าห้องนอน บอกลูกว่า
“แม่ขอดูกระจู๋หน่อย”
ลูกรีบเอามือจับเอวกางเกงไว้
พร้อมกับปฏิเสธไม่ให้แม่ดู
แม่ก็บอก “ขอดูหน่อยลูก มันมีอะใรผิดปกติไหม”
ลูกก็ยืนยันไม่ให้ดู แต่สุดท้ายแล้ว
เราเป็นคนดึงกางเกงลูกลงมาเอง
ภาพที่เห็นต่อหน้า ตรงนั้นของลูกเขียว ช้ำ
เราถามลูกว่า “เกิดอะใรขึ้น” ลูกตอบว่า
“พี่เขาเตะหนู”
“พี่คนไหน คนเดียวกันกับที่หยิกหนูไหม”
“ครับ”
“เกิดขึ้นตั้งแต่วันไหนลูก”
“โดนตั้งแต่วันที่ 20 ครับแม่”
เอิ่มมมม วันที่ 20 คือวันที่เราไปพบ ท่าน ผอ.นี่นา
เราก็เลยพาลูกไปหาหมอ (ตามใบรับรองแพทย์)
หาหมอเสร็จเราไม่ส่งลูกเข้าโรงเรียน
จะพาลูกกลับบ้าน แต่ลูกขอร้อง ขอไปโรงเรียนต่อ
ลูกอ้อนวอน ลูกรับปากว่า
“หนูจะดูแลตัวเองให้มากขึ้น”
เราก็ไปส่งลูกเข้าโรงเรียนตามปกติ
เหตุการณ์วันนั้น เราพยายามจะลืมมันไป
ไม่อยากเอาเรื่องเอาราว
เรานิ่งๆไปทุกอย่างก็น่าจะสงบ
เราก็ไปรับ ไปส่งลูกตามปกติมาอีกเรื่อยๆ
แต่ทุกครั้งที่เจอกันจะสังเกตุพฤติกรรมของลูก
ลูกเราจากเด็กร่าเริง พูดคุยกับเราทุกเรื่อง
ลูกเราเริ่มเปลี่ยนไป ไม่ร่าเริงเหมือนเดิม
พูดคุยน้อยลง เราจะถามลูกเสมอว่า
“วันนี้เป็นยังไงบ้างลูก เกิดเหตุการณ์อะใรบ้างไหม”
ลูกก็ตอบมาว่า “ไม่มีอะใรเกิดขึ้นครับแม่”
วันเวลาก็ผ่านมาเรื่อยๆ จนมาถึง 27 ก.ค.2561
ถึงกำหนดไปรับลูกที่โรงเรียน
พอไปรับก็ถามลูกปกติ ลูกก็บอก
“ไม่มีอะใรครับแม่”
แต่พอถึงเวลาจะอาบน้ำ ลูกถอดเสื้อ
เฮ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!!!!!
“เกิดอะใรขึ้นคะลูก ไหล่หนูไปโดนอะใรมา”
“เปล่าครับแม่ ไม่มีอะใร”
“ไม่มีอะใรได้ยังไง ไหล่หนูช้ำขนาดนั้น”
ลูกก็ยังไม่พูดอะใร ก็อ้ำๆอึ้ง
เราก็ให้เวลาลูกก่อน ลูกพร้อม ลูกคงจะเล่าเอง
ในที่สุด ลูกก็บอกว่า
“หนูโดนพี่เขาถีบล้มฟาดโดนเตียงเหล็กครับแม่”
“โดนยังไง ทำไมโดนทั้ง 2 ข้าง”
“พี่เขาถีบหนูล้มครั้งแรก หนูลุกขึ้น แล้วพี่เขาก็ถีบอีกครั้งที่ 2”
“แล้วพี่เขารู้ไหมว่าหนูเจ็บ”
“ไม่รู้ครับ ถีบล้มครั้งที่ 2 พี่เขาก็ออกจากห้องไป”
“หนูโดนพี่เขาทำตั้งแต่วันไหนคะลูก”
“โดนตั้งแต่วันที่ 25 ครับแม่”
โดนวันที่ 25 วันนี้ 27 โดนผ่านมาแล้วเข้าวันที่ 3
ยังบวม ช้ำ ขนาดนี้
ตอนที่ลูกโดนวันแรกๆ ลูกจะเจ็บมากขนาดไหน
หรือ ตอนที่ผลักล้ม เกิดไม่ไปฟาดกับเตียง
แต่หัวฟาดพื้น
ลูกจะมีโอกาสกลับมาหาแม่ที่บ้านอีกหรือไม่

ถ้าเหตุการณ์แบบนี้กับลูกของใคร!!!
คุณพ่อ คุณแม่ จะจัดการกับปัญหานี้อย่างใรดีคะ???

Advertisement

#ลูกถูกทำร้ายร่างกายในโรงเรียน#โรงเรียนกีฬากรุงเทพมหานคร#กีฬาว่ายน้ำ#88วันกับประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืม88…

โพสต์โดย ประเวศ นิศากร เมื่อ วันศุกร์ที่ 27 กรกฎาคม 2018

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image