เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 1 สิงหาคม 2561 จนท.กว่า 100 นาย นำท่อขนาด 12 นิ้ว จำนวน 10 ชุด เดินทางไปยังปากกระโถนบริเวณสันเขื่อนน้ำอูน ต.แร่ อ.พังโคน จ.สกลนคร เพื่อทำการติดตั้งระบบกาลักน้ำ ช่วยในการระบายน้ำออกจากเขื่อนลงไปยังลำน้ำอูน เนื่องจากปริมาณน้ำที่ใกล้เกินความจุ ล่าสุดระดับน้ำในเขื่อนน้ำอูนอยู่ที่ 512 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ ร้อยละ 98.64 จากความความจุกักเก็บ 520 ล้านลูกบาศก์เมตร การติดตั้งกาลักน้ำเพื่อช่วยในการระบายน้ำของคลองฝั่งซ้ายคลองฝั่งขวาประตูน้ำห้วยปลาหางและอาคารน้ำล้น ที่สามารถระบายน้ำออกได้เพียง วันละ 2.4 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งหากติดตั้งแล้วเสร็จจะสามารถระบายน้ำออกได้วันละ 300,000 ลูกบาศก์เมตร
นายเกรียงไกร กุลจิตบวร ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาน้ำอูน กล่าวว่า ขออย่าให้พี่น้องประชาชนที่อยู่ใต้เขื่อนด้านล่างอย่าตื่นตระหนกกับการติดตั้งกาลักน้ำ ไม่ใช่ว่าเราจะไม่สามารถบริหารจัดการน้ำได้ แต่เป็นการเตรียมแผนสำรองและช่วยการระบายน้ำของคลองส่งน้ำได้มากขึ้น เพราะการระบายน้ำออกไปตามคลองส่งน้ำหากปล่อยการระบายสูงสุดน้ำจะล้นคลองส่งน้ำกระทบต่อประชาชนและพื้นที่การเกษตร จึงต้องติดตั้งกาลักน้ำบังคับน้ำออกจากเขื่อนลงลำน้ำอูนธรรมชาติไหลผ่าน อ.พังโคน อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร อ.นาหว้า จ.นครพนม ไปบรรจบลำน้ำสงครามและไหลลงสู่แม่น้ำโขง ส่วนสาเหตุที่ไม่สามารถระบายน้ำออกมาก่อนหน้าที่ฝนจะมา เนื่องจากเป็นไปตามแผนบริหารจัดการน้ำของกลุ่มผู้ใช้น้ำเพื่อการเกษตร กว่า 1 แสนไร่ ซึ่งเราได้กักน้ำและปล่อยออกตั้งแต่วันที่ 17 กรกฎาคม 61 เพื่อให้เกษตรกรใช้น้ำทำการเกษตร แต่ปรากฎว่าพายุเซินติญมาก่อนจึงทำให้น้ำในเขื่อนขึ้นอย่างรวดเร็ว
นายเกรียงไกร กล่าวอีกว่า หากน้ำล้นก็จะไม่กระทบประชาชนรุนแรงเหมือนปีที่ผ่านมาที่พายุเซินกาพาดผ่านมา เพราะวันที่ 29 กรกฎาคม 60 น้ำเข้าเขื่อนวันเดียวกว่า 100 ล้านลูกบาศก์เมตร น้ำที่มาทั้งหมดจึงล้นปากกระโถนออกไปทั้งหมดเลยเป็นมวลน้ำขนาดใหญ่กระทบต่อผู้ที่อยู่ใกล้ริมตลิ่งลำน้ำอูน ปีนี้ปริมาณที่เข้าเขื่อนถึงแม้จะล้นปากกระโถนออกไปแต่ไหลออกไปในปริมาณที่น้อยกว่าจากปีที่ผ่านมา จึงขอให้ประชาชนมั่นใจต่อการบริหารจัดการน้ำของเขื่อนน้ำอูน และเขื่อนยังมีความแข็งแรงมั่นคง
