นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เดินทางมาเข้าร่วมประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ครั้งที่ 51 และการประชุมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ 1-4 สิงหาคมนี้ที่ประเทศสิงคโปร์ โดยที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนได้หารือกันในหลายประเด็นที่อยู่ในความสนใจร่วมกัน ซึ่งรวมถึงแนวคิดกรอบความร่วมมืออินโด-แปซิฟิก
นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ท่าทีไทยไม่ขัดแย้งกับเรื่องดังกล่าว แต่ไม่อยากให้มองเป็นปัญหาว่าแนวคิดใหม่จะสร้างความตึงเครียดให้กับภูมิภาค หรือเป็นเพราะสิ่งที่มีอยู่เดิมไม่ดี เพราะในความจริงแนวคิดอินโด-แปซิฟิกก็มีประเทศที่มีบทบาทในภูมิภาคอยู่แล้ว อาทิ ญี่ปุ่น อินเดีย และสหรัฐอเมริกา เพียงแต่ทำให้ชัดเจนขึ้น
“ควรจะถือว่าเป็นเรื่องเชิงบวก เพราะสิ่งที่มีอยู่เดิมและสิ่งที่เสนอขึ้นใหม่จะมาช่วยเสริมกันให้ดีขึ้น ให้รับรู้ว่ามันเป็นสิ่งที่จะทำให้เกิดประโยชน์ร่วมกันทุกฝ่าย เพื่อจะนำไปสู่เสถียรภาพ ความมั่นคง ความเจริญก้าวหน้าร่วมกันในภูมิภาค ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี”นายดอนกล่าว
ขณะที่ที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน-จีน ได้รับทราบความคืบหน้าหลังจากที่อาเซียนและจีนสามารถบรรลุข้อตกลงในการจัดทำร่างการเจรจาฉบับเดียว(Single Negotiation Text) เพื่อการหารือในการจัดทำแนวปฏิบัติในทะเลจีนใต้(ซีโอซี) ต่อไป
นายดอนกล่าวว่า การที่อาเซียน-จีนได้หารือกันแล้วสามารถนำประเด็นต่างๆ มารวมกันภายใต้เอกสารฉบับเดียวได้เป็นครั้งแรกถือว่ามีความคืบหน้า ถึงแม้จะยังมีประเด็นที่แตกต่างกันแต่ก็จะทำให้ปรับปรุงได้ง่ายขึ้น หลังจากนี้จะต้องดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไปเพื่อพัฒนาให้เป็นเอกสารที่เห็นชอบร่วมกัน(Common Text) แต่สิ่งที่เกิดขึ้นถือเป็นนิมิตรหมายที่ดีเพราะแสดงให้เห็นว่าอาเซียน-จีนมีความมุ่งมั่นตรงกัน
สำหรับการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน-รัสเซีย ที่ประชุมรับทราบว่านายวลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย จะเดินทางมาร่วมประชุมสุดยอดกับผู้นำอาเซียนในช่วงปลายปีนี้ที่ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งนายดอนกล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า แสดงให้เห็นว่ารัสเซียให้ความสำคัญกับอาเซียน และเป็นครั้งแรกที่ประธานาธิบดีปูตินจะมาพบกับผู้นำอาเซียนหลังชนะการเลือกตั้งใหม่ที่ได้รับเสียงสนับสนุนอย่างมาก
ทั้งนี้นายดอนยังได้แจ้งกำหนดการประชุมอาเซียนในปีหน้าที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพการประชุมตลอดทั้งปีให้กับรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนรับทราบ อย่างไรก็ดีต้องรอคำตอบจากชาติสมาชิกจึงจะสามารถสรุปวันและเวลาในการประชุมที่แน่นอนได้ต่อไป
