เมื่อเวลา 6.20 น. วันที่ 4 ส.ค. ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีตแกนนำ นปช. ได้รับการปล่อยตัว หลังเข้ารับโทษเป็นเวลา 1 ปี ด้วยข้อหาในคดีหมิ่นประมาทที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ฟ้องจากกรณีที่ถูกนายจตุพร กล่าวหาในลักษณะเป็นฆาตกรสั่งฆ่าประชาชนระหว่างขึ้นเวทีปราศรัยในการชุมนุมของกลุ่มนปช.เมื่อปี 2552 โดยเวลานี้ มีประชาชนกลุ่มนปช.จำนวนหนึ่ง รอมอบดอกกุหลาบให้การต้อนรับด้วยความยินดี
ต่อมาเวลา 7.00 น. นายจตุพร พรหมพันธุ์ ได้รับการปล่อยตัว โดยมีภรรยาของนายจตุพร นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ แกนนำนปช. นางธิดา ถาวรเศรษฐ และนายวรชัย เหมะ อดีตส.ส.ประจำจ.สมุทรปราการ สังกัดพรรคเพื่อไทย รอให้การต้อนรับพร้อมด้วยประชาชนกลุ่มนปช.จำนวนหนึ่งที่มารอมอบดอกกุหลาบด้วยความยินดี
ขณะที่ นางธิดาได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการดูดส.ส.ว่า ไม่มีปัญหาแต่ก็ขอบคุณที่เป็นการกลั่นกรองคน เพราะที่ผ่านมาคนที่โดดจากพรรคหนึ่งไปเป็นพวกเผด็จการแล้วประชาชนก็ให้บทลงโทษอย่างสาสมสำหรับคนที่ถูกดูดก็ยินดีที่ไป ส่วนกรณีนายนคร มาฉิม อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่ออกมาพูดถึงการร่วมสนับสนุนล้มรัฐบาลพรรคเพื่อไทยว่า ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่สิ่งที่เขาพูดมันเป็นในช่วงวันเกิดของนายทักษิณ ชินวัตร ก็คงเป็นที่น่าสนใจ แต่จากนี้นายนครคงไม่มีการกลับคำอีกแล้ว
ต่อมาเมื่อนายจตุพร ได้รับการปล่อยตัว ก็ได้กล่าวขอบคุณสมาชิกกลุ่มนปช. ทุกๆ คน รวมถึงเพื่อนพ้องเจ้าหน้าที่การเมือง เจ้าหน้าที่ผู้ต้องขัง
“ระยะเวลา 1 ปี 15 วัน ได้มีเรื่องเกิดขึ้นมาก แต่ก็ผ่านกันมาได้ เรียนว่าหนทางข้างหน้าของชาติไทยเป็นรื่องคนไทยทุกคนที่ต้องร่วมหาทางออก ในประวัติศาสตร์ไทยเรามักจะตายก่อนแก้เสมอ หนทางข้างหน้าที่เป็นวิกฤตแต่ละฝ่ายต้องร่วมกันคิดหาทางออก ท้ายที่สุดก็จะไม่ต่างจากที่ผ่านมา ผมมีความปราถนาให้บ้านเมืองไปข้างหน้าตามปณิธานของรัชกาลที่10”
นายจตุพร ยังกล่าวถึงกระแสพลังดูดว่า เริ่มต้นอยู่ที่วิกฤตศรัทธา ก็จะจบลงด้วยความหายนะ ตนไม่ต้องการให้บ้านเมืองจบด้วยเหตุเดิม อย่าทำตามประวัติศาสตร์ให้กลับมาซ้ำรอย ต้องยอมรับความจริง ที่ผ่านมาว่ามีการเลือกตั้งและยึดอำนาจสลับกันมาแต่ผู้ที่ตายฝ่ายเดียวคือประชาชน ตอนนี้สิ่งที่น่ากลัวไม่ใช่ใครจะได้คะแนนเสียงเท่าไหร่ ผลการเลือกตั้งเป็นเรื่องเล็กมาก แต่คือผลพวงจากการสร้างวิกฤตศรัทธาที่สำคัญ
นายจตุพร กล่าวถึงการได้พบปะกับนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตร และอดีตพระพุทธอิสระ แกนนำกลุ่มกปปส. ในช่วงที่ยังรับโทษอยู่ในคุกร่วมกัน ว่า การเข้ามาอยู่ในคุกก็เหมือนสุสานของคนเป็น ถ้าทุกคนพกความคับแค้นมาก็ไม่มีวันที่จะอยู่ในคุกได้ ในนั้นคือสถานที่อโหสิกรรมให้กัน
นายจตุพร กล่าวทิ้งท้ายว่า สิ่งแรกที่อยากจะทำหลังพ้นโทษ คือ ออกจากคุกให้เร็วที่สุด
