เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม ที่กองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน หรือค่ายนเรศวร จ.เพชรบุรี พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ด้านความมั่นคงและกิจการพิเศษ พร้อมคณะ เดินทางลงพื้นที่ จ.เพชรบุรี ประชุมกับนายณัฐวุฒิ เพ็ชรพรหมศร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วม หลังปริมาณน้ำในเขื่อนแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี มีระดับสูงและเริ่มล้นทางระบายน้ำฉุกเฉินหรือสปิลเวย์ พร้อมส่งมอบกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และอุปกรณ์ต่างๆ ให้แก่ทางจังหวัดเพชรบุรี เพื่อสนับสนุนภารกิจช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบภัย พร้อมกับนำเวชภัณฑ์ยาไปแจกจ่ายให้กับประชาชนในพื้นที่ด้วย
รอง ผบ.ตร.กล่าวภายหลังพิธีส่งมอบกำลังพลว่า ทางตำรวจได้ส่งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องกว่า 2,100 นาย รถยนต์ 300 คัน เฮลิคอปเตอร์ 3 ลำ เรือ 10 ลำ และอุปรกรณ์อื่นๆ มาสนับสนุนการปฏิบัติงานของฝ่ายปกครองผู้รับผิดชอบตาม พ.ร.บ.บรรเทาสาธารณภัย โดยกำลังเจ้าหน้าที่แต่ละหน่วยที่เข้ามาช่วยเหลือมีขีดความสามารถ โดยเฉพาะเฮลิคอปเตอร์กู้ภัยลำเลียงผู้ป่วยที่สามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที โดยจะมีการเตรียมความพร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ และอุปกรณ์ต่างๆ ตลอด 24 ชม. นอกจากนี้ยังได้สั่งให้มีการจัดกำลังเจ้าหน้าดูแลเรื่องการป้องกันเหตุอาชญากรรมป้องกันไม่ให้คนร้ายฉวยโอกาสเข้ามาก่อเหตุลักทรัพย์ประชาชนแล้ว
ส่วนกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าสาเหตุน้ำท่วมเป็นเพราะการตัดไม้ แผ้วถาง ทำลายป่าของชนกลุ่มน้อย และนายทุนนั้น พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวว่า ตนไม่ขอพูด ต้องถามทางฝ่ายปกครอง แต่ในฐานะที่กำกับดูแล กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยอมรับว่ามีข้อมูลการจับกุมคนที่ตัดไม้ทำลายป่าบ้าง แต่ไม่มาก ยืนยันป่าแก่งกระจานอุดมสมบูรณ์เกิน 90 เปอร์เซ็นต์ ส่วนตัวมองว่าสาเหตุน้ำท่วมไม่น่าจะเกิดจากการตัดไม้ทำลายป่าเพียงอย่างเดียว
ด้านนายณัฐวุฒิ เพ็ชรพรหมศร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี กล่าวว่า ทางจังหวัดมีการทำงาน และซักซ้อมแผนการปฎิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยกับตำรวจมาโดยตลอด ซึ่งทำให้เกิดผลดีในหลายด้าน ทั้งการจราจร การช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียง การส่งเสบียงเข้าไปในพื้นที่ ซึ่งสิ่งที่ได้ผลดีที่สุดคือการติดตั้งระบบสื่อสารในพื้นที่ประชาสัมพันธ์ถึงประชาชน ทั้งนี้ขอความร่วมมือจากประชาชนให้ฟังข่าวสารจากทางราชการเป็นหลักเพื่อไม่ให้เกิดการตื่นตระหนก ส่วนสถานการณ์ขณะนี้ดีขึ้นตามลำดับ พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบเป็นพื้นที่เกษตรกรรม เชื่อว่าสามารถรับมือได้
