ทึ่งนักเรียนซาไกโรงเรียนตชด.ตรังเรียนดีเกรด4เกือบทุกวิชา(ชมคลิป)

วันที่ 8 สิงหาคม 2561 ที่โรงเรียน ตชด.สันติราษฎร์ประชาบำรุง (บ้านเจ้าพะ) หมู่ที่ 14 ต.ปะเหลียน อ.ปะเหลียน จ.ตรัง เปิดทำการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับอนุบาลถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยที่ผ่านมามีพ่อแม่ผู้ปกครองซาไก หรือมันมิ ส่งบุตรหลานมาเรียน โดยปีนี้มีนักเรียนชนเผ่าซาไกหรือมานิ ต.ปะเหลียน จ.ตรัง ส่งลูกหลานมาเรียนจากเดิมปีละ 5-6 คนปีนี้เพิ่มเป็น 13 คน มีตั้งแต่ชั้นอนุบาล 1 –ป.3 ซึ่งทุกคนนามสกุลเดียวกันคือ ศรีปะเหลียน และแม้จะมีอายุมากกว่าเพื่อนร่วมชั้นแต่ก็สามารถเข้ากันได้ดี

โดยบรรยากาศการเรียนการสอนเด็ก ๆ ชั้นอนุบาลได้ทำกิจกรรมร่วมกันอย่างสนุกสนาน โดยเด็กหญิงสาว ศรีปะเหลียน ซึ่งอยู่ชั้น ป.3 เรียนได้เกรด 4 เกือบทุกวิชา เฉลี่ยคือ 3.80แต่ปัญหาที่พบในกลุ่มมานิคือขาดเรียนบ่อย และมาสาย เนื่องจากบ้านอยู่ลึกเข้าไปในป่าและต้องเดินทางไกลกว่า 6 กิโลเมตร ถนนยังเท่ากับล้อรถจักรยานยนต์ ซึ่งหากมีฝนตกหนักก็จะเกิดน้ำป่าไหลหลากระหว่างทาง ทำให้พ่อแม่ไม่ยอมให้ลูกมาโรงเรียนหลายวันติดต่อกัน

ดาบตำรวจหญิง กาญจนา หนูขวัญ ตำแหน่งครูผู้สอน ร.ร.ตชด.สันติราษฎร์ประชาบำรุง (บ้านเจ้าพะ) อ.ปะเหลียน จ.ตรัง กล่าวว่า ชนเผ่าซาไกมาเรียนร่วมด้วยจำนวน 13 คน ซึ่งมากกว่าทุกปีที่ผ่านมาซึ่งในตอนแรกนั้น มาประมาณ 6 คนโดยเริ่มตั้งแต่ เรียนชั้นอนุบาล 1 จำนวน 1 คน ชั้น ป. 1 จำนวน 6 คนซึ่งในตอนนั้น เริ่มแรกจะมีประมาณ 7 คน ก็ได้มีการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ทางผู้ปกครอง ของชุมชนเผ่าซาไกมานิ เขาก็อยากส่งเสริมให้ลูกของเขามีความรู้ เพราะสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันเช่น การใช้จ่ายการอ่านออกเขียนได้ ของชุมชน ก็เลยได้ส่งลูกของเขามาเรียนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยปัจจุบันจะมีตั้งแต่ชั้นอนุบาล 1 ไปจนถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ซึ่งรวมทั้งหมด 13 คน ทั้งนี้ผลการเรียนของชุมชนมานิ ผลการเรียนอยู่ในเกณฑ์ดี ซึ่งสามารถปรับตัวได้ดีกว่าเด็กของเรา เนื่องด้วยนักเรียนชุมชนเผ่ามานิ จะมีอายุที่ค่อนข้างมากกว่าเด็กของเรา ทำให้พัฒนาการทางด้านสติปัญญา การเรียนรู้ของเขาจะมีการพัฒนาขึ้นตามวัย สูงสุดจะ

Advertisement

“มีนักเรียนอยู่ 1 คน ชื่อ เด็กหญิงสาว เรียนได้เกรดเฉลี่ยประมาณ 3.8 กว่า ได้เกรด 4 เกือบทุกวิชา ส่วนในเรื่องของปัญหาอุปสรรคที่พบของน้องเขา ที่ไม่ได้มาโรงเรียนก็คือการคมนาคม เส้นทางการเดินทางค่อนข้างลำบาก โดยหากมีการเกิดฝนตกน้ำท่วม หากตกซักประมาณ 10 ถึง 15 วัน น้องก็จะหยุดโรงเรียน ซึ่งทางโรงเรียนก็เคยไปทำความเข้าใจกับผู้ปกครองแล้วแต่ทางผู้ปกครองจะกลัวน้ำป่า เพราะเมื่อเกิดน้ำป่าที่นี่นั้นจะมาเร็วและไปเร็ว เพราะระยะทางในการเดินทางที่มาถึงโรงเรียนนั้น หากเจอน้ำป่าหลากกลางทางก็กลัวว่า ลูกของเขาจะโดนน้ำป่าซัด ไปกับลำคลอง ซึ่งใช้เวลาเดินทางจากโรงเรียนไปถึงบ้านประมาณ 6 กิโลเมตร ซึ่งจะใช้รถได้เพียงแค่ 3 กิโลเมตรเท่านั้นนอกจากนั้นก็จะต้องเดินเท้ามาอีก 3 กิโลเมตร ส่วนในเรื่องการปรับตัวสามารถเข้ากับเพื่อนได้ดี” ดาบตำรวจหญิง กาญจนา กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image