เมื่อเวลา18.30 น.วันที่ 15 สิงหาคม นายพิทักษ์ อบสุวรรณ อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญา กล่าวถึงกรณีที่พนักงานอัยการยังไม่ได้ยื่นฟ้องนายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรืออดีตพระพุทธอิสระ อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม และ หนึ่งในแกนนำกปปส. ข้อหาปลอมพระปรมาภิไธย จากการนำอักษรพระปรมาภิไธย ภ.ป.ร. และอักษรพระนามาภิไธย ส.ก. ประดิษฐานหลังองค์พระเครื่องนาคปรก อุดปรอท รุ่นหนึ่งในปฐพี โดยไม่ได้รับพระราชทาน จนหมดระยะเวลาฝากขังต้องปล่อยตัวในวันพรุ่งนี้(16สิงหาคม) ว่า นายกรณีของ นายสุวิทย์นั้นมีหลายคดีทั้งในสำนักงานอัยการคดีอาญา เเละเดิมถูกควบคุมตัวระหว่างพิจารณาคดีในส่วนของสำนักงานอัยการคดีพิเศษฟ้องร่วมกับเเกนนำกปปส.ในข้อหากบฏ ด้วย
“ซึ่งในสำนวนคดีปลอมพระปรมาภิไธยนี้ พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามเพิ่งจะนำสำนวนพร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้องมายื่นต่ออัยการสำนักงานคดีอาญาในวันนี้ ทำให้เราเพิ่งได้รับสำนวนในช่วงกลางวัน วันนี้จึงยังไม่ได้มีการพิจารณาสำนวน”
นายพิทักษ์ กล่าวว่า ตนได้มีคำสั่งตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณาสำนวนโดยมอบหมายให้อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 5 ซึ่งอยู่ในความดูเเลของนาย เจษฎา อรุณชัยภิรมย์ รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญาเป็นผู้ดูเเล ซึ่งคดีนี้ถ้าเราพิจารณาเเล้วเกิดมีความเห็นสั่งฟ้องขึ้นมาเราก็สามารถนัดนำตัวมายื่นฟ้องได้ในภายหลังอีก เนื่องจากนายสุวิทย์เองก็ถูกควบคุมตัวในคดีอื่นอยู่ด้วย ทำให้คณะทำงานจะพิจารณาคดีนี้อย่างรอบคอบละเอียดเรื่องจากไม่ติดเรื่องปัญหาระยะเวลาในการควบคุมตัว ซึ่งคงอีกสักระยะที่คณะทำงานจะเสนอความเห็นขึ้นมา
เมื่อถามว่ามีการวางกรอบระยะเวลาไว้หรือไม่ เนื่องจากไม่มีกรอบระยะเวลาฝากขังคอยคุมจะทำให้คดีใช้เวลาพิจารณายืดเยื้อ นายพิทักษ์กล่าวว่า มันก็เป็นไปได้เเต่นายสุวิทย์ขณะนี้ถูกคุมตัวในคดีที่มีการยื่นฟ้องไปเเล้วก็ถือว่าตัวอยู่ในความดูเเลของอัยการอยู่เเล้ว ตัวนายสุวิทย์ก็มีคดีอื่นที่อยู่ในอำนาจศาลอีก ฉะนั้นเราไม่จำเป็นที่จะต้องเร่งรีบที่จะต้องพิจารณาใน 3เดือน เหมือนคดีที่ควบคุมตัวระหว่างฝากขัง คดีเเบบนี้บางทีมีข้อเท็จจริงที่จะต้องชัดเจนเราก็จะมอบให้คณะทำงานดูเเล อาจจะมีการสอบเพิ่มอีกหรือไม่ตนก็ไม่ทราบ
