จับยาบ้า3.2ล้านเม็ด ยาไอซ์170กก.ใส่รถปูนข้ามสะพานมิตรภาพ

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 21 สิงหาคม พล.ต.ท.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผบช.ภ.4 , นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี , พล.ต.ต.พีระพงษ์ วงศ์สมาน ผบก.ภ.จว.อุดรธานี , พล.ต.กนก ภู่ม่วง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี , พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี เดินทางติดตามการจับกุมตรวจยึด “ยาบ้า-ยาไอซ์” ครั้งใหญ่ที่สุดของอุดรธานี ภายในรถบรรทุกซีเมนต์ผง ทะเบียนหัวลาก 70-0487 บึงกาฬ ทะเบียนพ่วง 70-0701 บึงกาฬ ของ หจก.มงคลธรรม จ.บึงกาฬ จอดอยู่บริเวณลานจอดรถ โรงงานพักและบรรจุซีเมนต์ผงยี่ห้อดัง ถนนวงแหวนทิศใต้ ริมทางรถไฟ ในเขต ทน.อุดรธานี

 

พล.ต.ต.พีระพงษ์ ผบก.ภ.จว.อุดรธานี เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองอุดรธานี ได้เรียกตรวจนายครรชิต จำปาทอง อายุ 38 ปี เลขที่ 119 ม.7 บ.หนองตะไก้ ต.หนองไผ่ อ.เมือง จ.อุดรธานี ขณะขี่ จยย.บริเวณทางเข้าโรงปูน หลังพบพิรุธและได้กลิ่นยาบ้า โดยตรวจพบยาบ้าใต้เบาะ จยย. 14,000 เม็ด และขยายผลในโรงปูนได้อีก 12,000 เม็ด ขณะนำตัวมาสอบสวนเพิ่มเติมเช้าที่ผ่านมา พบว่าผู้ต้องหาเป็นโชเฟอร์รถบรรทุกปูนผง ตรวจค้นพบยาบ้า 3 กระสอบครึ่ง 1.1 ล้านเม็ดตรา “ลัมโบกีนี่ 999” ซ้อนในช่องเก็บเครื่องมือใต้ถังเก็บซีเมนต์ผง และตรวจพบอีกในตัวเก๋งรอตรวจสอบ

ทั้งนี้พล.ต.ท.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผบช.ภ.4 ได้ปีนขึ้นรถตรวจสอบด้วยตนเอง พบกระสอบลักษณะเหมือนที่ยึดได้ใต้รถ ถูกอัดอยู่ตัวเก๋งหลังคนขับ ใช้เพียงผ้าม่านปิดไม่ให้สังเกตเท่านั้น จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ขนลงมา ทำการตรวจนับหลังรถสายตรวจ ต่อหน้านายครรชิตฯผู้ต้องหา และสื่อมวลชน ซึ่งรวมทั้งหมดเป็นถุงพลาสติกสีดำพันด้วยเทปสี ห่อทับกระสอบปุ๋ยสีขาว รวมทั้งสิ้น 13 กระสอบ เมื่อแกะออกพบว่าเป็นยาบ้า 7 กระสอบๆละ 300,000 เม็ด รวมเป็นยาบ้า 3.2 ล้านเม็ด และเป็นยาไอซ์ 6 กระสอบ 170 กก. ซึ่งถือเป็นการตรวจยึดยาเสพติดครั้งใหญ่ที่สด ที่เคยมีมาในพื้นที่ จ.อุดรธานี

Advertisement

จากการสอบถาม นายครรชิต ระบุว่า ทำงานขับรถบรรทุกเหมือนพ่อ ทำงานนี้มาตลอดทั้งชีวิต ย้ายงานมาหลายแห่งล่าสุดคือ หจก.มงคลธรรม ทำงานได้ประมาณ 1 ปี และทำงานขับรถไป สปป.ลาวได้ 1 เดือน เพื่อนำซีเมนต์ผงไปส่งที่งานสร้างเขื่อนใน สปป.ลาว โดยก่อนหน้านี้ได้ขับรถไปส่งซีเมนต์ งานสร้างเขื่อนน้ำเงียบ ปากซัน แขวงบริคำไซ ซึ่งจะใช้แพขนานยนต์ที่ จ.บึงกาฬ ครั้งนั้นได้รับการติดต่อจาก นายชัยพอนฯพ่อค้ายาชาวลาว ในการลักลอบขนยาเสพติดเข้าประเทศไทย

นายครรชิต ยอมรับว่า ติดยาบ้าและต้องเสพวันละ 2-5 เม็ด จึงตอบตกลงจะขนยาเสพติด ทั้งที่ไม่รู้ว่าเป็นยาเสพติดอะไร โดยการขับรถไปส่งซีเมนต์ครั้งนี้ จะไปที่หน้างานสร้างเขื่อนน้ำงึม จะต้องขับรถผ่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว หลังจากขับรถไปส่งซีเมนต์วันที่ 16 สิงหาคม และนัดกับนายชัยพอน ที่ถนนสาย 400 โดยนายชัยพอนฯขับรถมารับ พาไปกินข้าว ดื่มเบียร์ และเลี้ยงดูปูเสื่อ ระหว่างรอให้คนงานขนยาเสพติดขึ้นรถ วันกลับออกมา 17 สิงหาคม ก็ผ่านด่านสะพานมิตรภาพ โดยไม่มีการตรวจตราใดๆ จนเอารถมาจอดทิ้งไว้ในโรงปูน

Advertisement

“ยังไม่ได้เงินค่าขนมาอุดรธานี 2 แสนบาท เพราะต้องรอให้มีคนมารับช่วงต่อ จึงโทรไปถามนายชัยพอนฯให้หาคนมาเอา นายชัยพอนฯต่อรองว่าหากขนไปให้ที่กบินทร์บุรีจะได้ค่าจ้างเพิ่มอีก 1 ล้านบาท แต่ไม่ได้ตอบตกลงเพราะกลัว จึงมีเพียงรายย่อยมารับเอายาบ้า โดยตัวเองก็แกะเอายาบ้า ในกระสอบใต้ท้องรถออกมาเสพและขาย และกำลังออกเอาไปขายก็มาถูกจับกุมก่อน”นายครรชิตกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผบช.ภ.4 ได้กล่าวแสดงความขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจอุดรธานี พร้อมมอบรางวัลเงินสด 20,000 บาท เป็นรางวัลเบื้องต้นให้กับ ด.ต.พินิจ พฤษชาติ เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ 191 และคู่หู พร้อมกำชับให้ผู้บังคับบัญชา บันทึกผลงานครั้งนี้ไว้ เสนอรับความดีความชอบพิเศษในปีนี้ และทีมสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี อีก 20,000 บาท พร้อมกล่าวว่า การทำหน้าที่ตำรวจทุกสายงาน หากตั้งใจและมีไหวพริบในการทำงาน ก็สามารถทำผลงานให้ตนเอง และต้นสังกัดได้ อีกทั้งกำชับให้สอบสวนขยายผล ในคดีนี้ในทุกประเด็น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image