เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเพชรบุรี รายงานสถานการณ์น้ำที่เขื่อนแก่งกระจานมีปริมาณน้ำ 777.031 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 109.44 % ของความจุเต็มอ่าง และมีแนวโน้มว่าจะมีปริมาณน้ำไหลล้นสปิลเวย์เพิ่มขึ้นเป็นอัตราประมาณ 286 ลบ.ม./วินาที ทำให้เขื่อนเพชรต้องเพิ่มการระบายน้ำลงสู่แม่น้ำเพชรบุรีเพิ่มขึ้นเป็นระดับ 140 – 160 ลบ.ม./วินาที
ปริมาณน้ำที่เขื่อนเพชรปล่อยลงแม่น้ำเพชรบุรีดังกล่าว ส่งผลให้แม่น้ำเพชรบุรีเริ่มปริ่มล้นตลิ่งและเริ่มเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านประชาชน ต.คลองกระแชง อ.เมืองเพชรบุรี ต.ท่าราบ อ.เมืองเพชรบุรี และพื้นที่ลุ่มต่ำทั้ง 2 ฝั่งแม่น้ำ และคาดว่าจะเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน อาศัยอยู่บริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำริมฝั่งแม่น้ำเพชรบุรี
ขณะที่ประชาชนในเขตเทศบาลเมืองเพชรบุรี เริ่มมีความตื่นตัวอีกครั้ง เริ่มมีการก่ออิฐบล๊อกทำเป็นกำแพงกั้นน้ำเข้าที่พักอาศัย โดยนายลือศักดิ์ รอดชูแสง อายุ 50 ปี ชาวเพชรบุรี เจ้าของร้านชำ เปิดเผยว่า ติดตามข่าวสารจากทางราชการ และสื่อมวลชน ในช่องทางต่างๆ ทั้งออนไลน์ และสื่อหลักมาโดยตลอด ก่อนหน้านี้ตั้งแต่ทราบข่าววิกฤตสถานการณ์น้ำครั้งแรกได้นำกระสอบทรายมาก่อปิดกั้นกันน้ำมาแล้วหลายวัน แต่เมื่อวิกฤตรอบแรกผ่านไป ประกอบกับเห็นน้ำในแม่น้ำเพชรบุรีลดลงจึงคลายใจนำกระสอบทรายออก แต่เมื่อทราบข่าวจากจังหวัดเพชรบุรี และสื่อมวลชนถึงวิกฤตน้ำรอบใหม่อีกครั้ง และพบเห็นปริมาณน้ำในแม่น้ำเพชรบุรีเพิ่มขึ้นจนถึงตลิ่ง จึงรีบก่อปูนกั้นอีกครั้ง ครั้งนี้ตั้งใจจะทำให้เป็นการถาวรเพื่อป้องกันในระยะยาวเลย
