รมว.อาร์เซ็ปเคาะ6ความร่วมมือสรุปภายในปีนี้ หวังขยายตลาดการค้า-ลงทุนใหญ่สุดของโลก

น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยผลารประชุมรัฐมนตรีความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค หรือ อาร์เซ็ป ครั้งที่ 6 ระหว่างวันที่ 30-31 สิงหาคม 2561 ณ สาธารณรัฐสิงคโปร์ ว่า ในระหว่างการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน ครั้งที่ 50 ประสบความสำเร็จอย่างมาก อาจถือได้ว่าเป็นครั้งแรกที่ระดับรัฐมนตรีอาร์เซ็ปตกลงกันได้ในประเด็นหลักที่มีความสำคัญกับอนาคตของการเจรจา โดยเฉพาะ 6 เรื่องสำคัญ คือ การจัดทำข้อผูกพันการเปิดตลาดสินค้า บริการ การลงทุน การจัดทำข้อบทเรื่องทรัพย์สินทางปัญญา การแข่งขัน และพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ และได้มอบให้ระดับเทคนิคไปหารือกันต่อในรายละเอียดเพื่อหาข้อสรุปในเรื่องเหล่านี้ให้ได้ภายในปี 2561

น.ส.ชุติมากล่าวว่า ที่ประชุมระดับรัฐมนตรียังได้ตกลงแผนการทำงานในอนาคต เพื่อให้สามารถรายงานความคืบหน้าต่อที่ประชุมระดับผู้นำได้ โดยกำหนดให้สมาชิกยื่นข้อเสนอการเปิดตลาดสินค้า บริการ และลงทุนฉบับปรับปรุง ภายในวันที่ 28 กันยายน 2561 ควบคู่ไปกับการหารือระดับสองฝ่าย เพื่อให้การเปิดตลาดระหว่างสมาชิกอาร์เซ็ปตอบสนองข้อเรียกร้องระหว่างกัน และให้มีการประชุมระดับรัฐมนตรีอาร์เซ็ปสมัยพิเศษ ในต้นเดือนตุลาคม 2561 เพื่อประเมินผลข้อเสนอเปิดตลาดฉบับปรับปรุง ก่อนเปิดให้สมาชิกยื่นข้อเสนอการเปิดตลาดฉบับสุดท้าย ในวันที่ 15 ตุลาคม 2561 จากนั้นจะมีการประชุมระดับเทคนิคเต็มรอบ ในวันที่ 21-27 ตุลาคม 2561 ที่ประเทศนิวซีแลนด์ ก่อนที่ระดับรัฐมนตรีและระดับผู้นำสมาชิกอาร์เซ็ปจะพบกันในเดือนพฤศจิกายน ในช่วงการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่สิงคโปร์

“การประชุมครั้งนี้ สมาชิกอาร์เซ็ปแสดงความมุ่งมั่นให้การเจรจาคืบหน้าและประกาศผลสรุปที่มีนัยสำคัญในปลายปี 2561 และจัดทำเอกสารผลการเจรจาเพื่อให้สามารถลงนามได้ในปี 2562 โดยเห็นว่า การรวมกลุ่มเพื่อเปิดการค้าเสรีในระดับภูมิภาคขนาดใหญ่ อาทิ อาร์เซ็ป ซึ่งมีสมาชิก 16 ประเทศ (อาเซียน 10 ประเทศ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ญี่ปุ่น จีน เกาหลี และอินเดีย) จะช่วยให้สมาชิกสามารถรับมือกับความเสี่ยงและความท้าทายที่เกิดขึ้นในระบบเศรษฐกิจการค้าโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นเพราะผลการเจรจาจะทำให้อาร์เซ็ปกลายเป็นตลาดการค้าและการลงทุนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ครอบคลุมหนึ่งในสามของเศรษฐกิจโลก มีประชากรรวมกันกว่า 3.5 พันล้านคน มีผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศ(จีดีพี) รวมกันมากกว่า 23 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งผู้ประกอบการไทยจะสามารถใช้ประโยชน์จากความตกลงอาร์เซ็ป เชื่อมเข้าสู่ห่วงโซ่มูลค่าในภูมิภาคอาร์เซ็ปและตลาดโลกด้วย”น.ส.ชุติมากล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image