อินฟราฟัน : ย้อนรอยไฮสปีดเทรน : นายขันตี

ช่วงนี้เมกะโปรเจ็กต์ที่มีการพูดถึงมากอีกหนึ่งโครงการ คือ รถไฟความเร็วสูง หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า “ไฮสปีดเทรน” สัปดาห์นี้อินฟราฟันจึงมีข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับรถไฟความเร็วสูงมาฝากกัน

ไฮสปีดเทรนเป็นระบบการขนส่งทางรางที่วิ่งด้วยความเร็วสูงกว่าระบบขนส่งทางรางทั่วไป ด้วยล้อเลื่อนพิเศษร่วมกับระบบรางที่ออกแบบมาเฉพาะ ส่วนใหญ่จะวิ่งบนรางขนาด 1.435 เมตร (สแตนดาร์ด เกจ)

โดยนิยามของรถไฟความเร็วสูงของ International Union of Railways หรือ UIC หมายถึง ระบบรถไฟซึ่งมีขบวนรถไฟและโครงสร้างพื้นฐานที่ทำให้การเดินรถในสภาวะปกติมีความเร็วสูงกว่า 250 กิโลเมตร(กม.)/ชั่วโมง(ชม.) หรือบนเส้นทางที่ก่อสร้างใหม่บนความเร็วที่มากกว่า 200 กม./ชม. มีการออกแบบเป็นรถโดยสารและให้บริการขนส่งสินค้า

ลักษณะเด่นของรถไฟความเร็วสูง คือ ตัวรางที่เชื่อมต่อแบบไร้รอยต่อ ทำให้ลดแรงสั่นสะเทือน และลดค่าความแตกต่างของระดับในช่วงขบวนรถไฟ

Advertisement

ทั้งนี้ ญี่ปุ่น ถือเป็นผู้พัฒนารถไฟความเร็วสูงเป็นประเทศแรกของโลก เรียกว่า รถไฟหัวกระสุน (Bullet Train-Shinkansen) โดยเปิดให้บริการครั้งแรกในเส้นทางกรุงโตเกียว-นครโอซาก้า เมื่อปี ค.ศ.1964 หรือปี พ.ศ.2507 มีความเร็วสูงสุดที่ 210 กม./ชม.

ต่อมา ฝรั่งเศส พัฒนารถไฟความเร็วสูงที่เรียกว่า TGV (เตเจเว) เป็นครั้งแรกในยุโรป จากนั้นหลายประเทศในยุโรป ได้แก่ อิตาลี เยอรมนี สเปน เบลเยียม และอังกฤษ ก็นำรถไฟความเร็วสูงมาใช้ ทำให้การเดินทางเชื่อมต่อกันในยุโรปสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น

ในภูมิภาคเอเชีย นอกจากญี่ปุ่นซึ่งเป็นผู้บุกเบิกรถไฟความเร็วสูงแล้ว ยังมีเกาหลีใต้ ไต้หวัน และจีน ซึ่งเป็นประเทศล่าสุดที่เปิดให้บริการรถไฟความเร็วสูงด้วย

สำหรับรถไฟความเร็วสูงในฝรั่งเศส ให้บริการโดยการรถไฟแห่งชาติฝรั่งเศส หรือแอสแอนเซแอ็ฟ (SNCF) เมื่อปี ค.ศ.1981 หรือ พ.ศ.2524 เริ่มแรกวิ่งให้บริการด้วยความเร็ว 200 กม./ชม. ต่อมาบริษัท Alstom ได้พัฒนาให้ระบบขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้าแบบเหนือหัว ใช้ชื่อ TGV Sud-Est เป็นรุ่นแรกวิ่งบนความเร็ว 270 กม./ชม. และพัฒนาให้วิ่งด้วยความเร็วสูงสุดที่ 300 กม./ชม. และ 320 กม./ชม. ตามลำดับ

รถไฟความเร็วสูงในฝรั่งเศสได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก จนไม่สามารถรองรับความต้องการของผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นได้ ต่อมา SNCF และ Alstom จึงเปิดตัวรถรุ่นใหม่ TGV Duplex เพื่อรองรับความต้องการ และเปิดตัวรถรุ่นใหม่ๆ เพื่อเชื่อมต่อการเดินทางอย่างต่อเนื่อง จนถึงปัจจุบันมีระยะทางให้บริการรวม 2,824 กม. มี 230 สถานี

ส่วนรถไฟความเร็วสูงในประเทศอื่นๆ จะเป็นอย่างไร สัปดาห์หน้ารอติดตามกันต่อครับ!!

นายขันตี

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image