‘ดีป้า’ จับมือ 12ประเทศ 500หน่วยงาน จัดงาน ‘ดิจิทัลไทยแลนด์บิ๊กแบง 2018’ พลิกโฉมประเทศสู่ยุค 4.0

นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยในงานแถลงข่าว ดิจิทัลไทยแลนด์บิ๊กแบง 2018 ณ โรงแรมเรอเนสซองซ์ ว่า เทคโนโลยีดิจิทัลมีความสำคัญอย่างมากต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม เป็นทั้งตัวเร่งการขับเคลื่อนประเทศตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 และเป็นเครื่องมือพลิกโฉม ประเทศไทยตามแนวทางของ ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น เพื่อให้ไทยหลุดพ้นจากกับดักทางเศรษฐกิจ โดยกระทรวงดีอี ได้ดำเนินการตั้งแต่การวางโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลทั่วประเทศ สร้างรายได้ให้ประชาชนในชุมชนผ่านอีคอมเมิร์ซ และยกระดับคุณภาพชีวิต ด้านสุขภาพ การเรียนรู้ การเข้าถึงบริการของรัฐ การทาการเกษตรยุคใหม่ รัฐบาลเร่งปรับฐานเศรษฐกิจด้วยนวัตกรรมดิจิทัลผ่าน โครงการขนาดใหญ่ของรัฐ อาทิ สมาร์ทซิตี้, โค้ชติ้ง เนชั่น, ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น และดิจิทัล พาร์ค ไทยแลนด์ ที่จะส่งให้ ไทยเป็นผู้นาด้านการค้าการลงทุน และการพัฒนานวัตกรรมดิจิทัลของภูมิภาค และการจัดงาน ดิจิทัลไทยแลนด์บิ๊กแบง คือ โอกาสครั้งสำคัญที่จะเตรียมความพร้อมให้กับคนไทยได้เข้าสู่ยุคดิจิทัลเต็มรูปแบบ สร้างการรับรู้และเล็งเห็นประโยชน์ของการนำดิจิทัลมาขับเคลื่อนทั้งระบบเศรษฐกิจและสังคม

นายพิเชฐ กล่าวว่า ในปีนี้ ทางกระทรวงดีอี โดยสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) ดำเนินการจัดงาน ดิจิทัลไทยแลนด์บิ๊กแบง 2018 โดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ 1. ในส่วนภูมิภาค การจัดงาน ดิจิทัลไทยแลนด์บิ๊กแบง รีจินอล 4 ภูมิภาค ภายใต้แนวคิด ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น ไทยแลนด์ : โลกเปิด เราปรับ ประเทศเปลี่ยน จัดใน 4 จังหวัดหัวเมืองใหญ่ ได้แก่ จังหวัดขอนแก่น, เชียงใหม่, ระยอง และสงขลา ซึ่งประสบความสำเร็จเกินความคาดหมาย มีผู้เข้าร่วมชมงานกว่า 61,000 คน อาทิ ผู้ประกอบการ, นักพัฒนาดิจิทัลซอฟต์แวร์, โปรแกรมเมอร์, นักเรียน, นักศึกษา, ครู และผู้บริหารสถานศึกษา, ข้าราชการ และประชาชน ทั่วไป และ 2.ในส่วนกลาง การจัดงาน ดิจิทัลไทยแลนด์บิ๊กแบง 2018 ระหว่างวันที่ 19-23 กันยายน 2561 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค กระทรวงดีอี ให้ความสำคัญกับงานนี้มาก โดยเน้นให้มีความยิ่งใหญ่อลังการกว่าปีที่แล้ว โดย การเพิ่มพื้นที่การจัดงานให้ใหญ่ขึ้นเป็น 60,000 ตารางเมตร เต็มพื้นที่ชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพ็ค เพื่อสามารถรองรับการแสดง เทคโนโลยีชั้นนา และเพิ่มวันจัดงาน เป็น 5 วัน เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกคนได้มาเรียนรู้และสนุกกับดิจิทัล มาเรียนรู้โลกแห่งดิจิทัลที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปด้วยกัน

Advertisement

“งานนี้นับเป็นมหกรรมดิจิทัลระดับนานาชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีพันธมิตรจาก 12 ประเทศ กว่า 500 หน่วยงาน ทั้งภาครัฐ เอกชน และดิจิทัลสตาร์ทอัพ ร่วมนำเสนอนวัตกรรมเทคโนโลยีล้ำสมัยหลากหลายสาขา เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสประสบการณ์ตื่นตาตื่นใจ เข้าใจถึงประโยชน์ ความสะดวกสบาย และโอกาสใหม่ๆ ทางธุรกิจ รวมถึงคุณภาพ ชีวิตที่จะเกิดขึ้นจากการเข้าใจและใช้บิ๊กดาต้าอันจะส่งผลขับเคลื่อนการพัฒนาในทุกภาคส่วน ทางดีป้าได้จัดเตรียมสุดยอดด้านดิจิทัล ที่ทันสมัยที่สุดพร้อม 10 บิ๊กแบง 29 ไฮไลท์ไว้รอทุกคน” นายพิเชฐ กล่าว

นายณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อานวยการสานักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) เปิดเผยว่า ความยิ่งใหญ่ของงานในครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งในประเทศ กว่า 100 หน่วยงาน และความร่วมมือระดับนานาชาติจาก 12 ประเทศ ได้แก่ ประเทศจีน ญี่ปุ่น ลาว มาเลเซีย โปแลนด์ อินโดนีเซีย สิงคโปร์ สหรัฐอเมริกา เวียดนาม เนปาล อินเดียและอิสราเอล มาเพื่อให้ผู้เข้าชมงานได้ตระหนักถึงการเปลี่ยนผ่านสู่โลกดิจิทัล การก้าวให้ทันเทคโนโลยีและ นำมาปรับใช้เป็นกลยุทธ์ เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน โดยตั้งเป้าจะมีผู้เข้าชมงานทั้ง 5 วัน ไม่ต่ำกว่า 250,000 คน งานนี้จะ ทาให้ทุกคนได้พบกับการเปลี่ยนแปลงของประเทศใน 8 ด้านหลัก ได้แก่ 1.สัมผัสนวัตกรรมคลาวด์คอมพิวติ้ง ที่เชื่อมโยงโลกทั้ง ใบอย่างไร้ขีดจากัด 2.การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่จะทาให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางข้อมูลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในระดับภูมิภาค ที่เชื่อมโยงไปทั่วโลกผ่านดิจิทัลเทคโนโลยี อาทิ ระบบเคเบิลใยแก้วนาแสงใต้น้ำ และดวงดาวอัจฉริยะหรือ ดาวเทียม เป็นต้น 3.มิติของการเปลี่ยนแปลงข้อมูลขนาดใหญ่ ที่นำไปใช้ประโยชน์และมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ 4.พบเทคโนโลยีแห่งอนาคต ทั้งเทคโนโลยีใหม่ เทคโนโลยีก่อกำเนิด และนวัตกรรมดิจิทัลจากเหล่านักพัฒนาดิจิทัลกว่า 800 ราย 5.พบโอกาสมหาศาลในโลกแห่งข้อมูลไร้พรมแดนที่นาไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่กับบล็อคเชน ที่ ไม่ใช่ดิจิทัลเฉพาะโลกการเงินแต่คือ ดิจิทัลสำหรับทุกคน 6.การศึกษาระบบใหม่ ให้คนไทยก้าวเท่าทันการเปลี่ยนแปลง อย่างเท่าเทียมและทั่วถึง 7) ก้าวล้ำสู่อีกขั้นของ 7 เมืองอัจฉริยะ กับการเตรียมพร้อมรองรับเป็นเจ้าภาพระดับ อาเซียน ปี 2019 และ 8.มหกรรมการแข่งขันระดับเยาวชน ที่มีเด็กๆ ตบเท้าเข้าร่วมกว่า 5,000 คน เพื่อแสดงความสามารถทางด้าน ดิจิทัลเทคโนโลยี ในการแข่งขันหุ่นยนต์ การแข่งขันบินโดรน การแข่งขันออกแบบภาษาคอมพิวเตอร์ เป็นต้น

“การจัดงานในครั้งนี้ จะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทยในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาขับเคลื่อน เศรษฐกิจและสังคม และยังเป็นเวทีที่ประเทศไทยจะได้ประกาศศักยภาพในการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีดิจิทัลในภูมิภาคอาเซียนด้วย ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจสามารถเข้าร่วมชมงาน ดิจิทัลไทยแลนด์บิ๊กแบง 2018 โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ตั้งแต่ 19-23 กันยายน 2561 ที่ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพ็คเมืองทองธานี (เปิดให้เข้าชมวันที่ 19 กันยายน 2561 เริ่มเวลา 12.00-19.00 น., 20-21 กันยายน 2561 เวลา 09.00-19.00 น. และ 22-23 กันยายน 2561 เวลา 10.00-19.00 น.) ทั้งนี้ ในวันที่ 19 กันยายน 2561 พบกับพิธีเปิดงานอย่างเป็นทางการโดยได้รับเกียรติสูงสุดจาก พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมมอบรางวัล PM’s Digital Award 2018 แก่ผู้มีผลงานดีเด่นทางด้านนวัตกรรม เทคโนโลยีดิจิทัล 5 ด้าน” นายณัฐพล กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image