ไทยพาณิชย์ผนึกส.อ.ท.ลุยโรดโชว์ทุกภาคหนุนเอสเอ็มอีใช้บัญชีเล่มเดียว พร้อมให้กู้ดอกเบี้ยต่ำ

นางพิกุล ศรีมหันต์ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ผู้บริหารสูงสุด เอสเอ็มอี เซ็กเม้นต์ ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจที่มีทิศทางปรับดีขึ้นตามภาคการส่งออก และการท่องเที่ยวที่ขยายตัวดี พบว่าส่งผลดีต่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) ที่เป็นธุรกิจเกี่ยวเนื่องให้ขยายตัวดีตามและยังมีความต้องการด้านสินเชื่อเพิ่มขึ้น แต่มีธุรกิจเอสเอ็มอีบางส่วนที่อ่อนแอเพราะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในช่วงก่อนหน้าและการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เข้ามากระทบ มำให้ยังต้องต้องมีการปรับตัวรองรับ อย่างไรก็ตาม ในส่วนการขยายสินเชื่อเอสเอ็มอีของธนาคารตั้งเป้าหมายจะปล่อยสินเชื่อ 1 แสนล้านบาท โดยมีการทยอยปล่อยสินเชื่อไปแล้วปัจจุบันสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 3.44 แสนล้านบาท หรือคิดเป็นเอสเอ็มอีกว่า 7 หมื่นราย 

นางพิกุล กล่าวว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) สมาคมธนาคารไทย ได้มีการกำหนดให้ธนาคารพาณิชย์ ใช้งบการเงินที่ธุรกิจเอสเอ็มอีแสดงต่อกรมสรรพากรในการยื่นเสียภาษีเงินได้(บัญชีเล่มเดียว) เป็นหลักฐานขอสินเชื่อกับสถาบันการเงิน ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2562 เป็นต้นไป ธนาคารจึงได้มีการสนับสนุนมาตรการนี้และปัจจุบันมีการใช้บัญชีเล่มเดียวในการพิจารณาให้สินเชื่ออยู่แล้ว โดยมี 30-40% ที่ไม่ต้องเรียกเอกสารแสดงรายได้เพิ่มเติมแต่ที่เหลือยังต้องมีการเรียกเอกสารอยู่ ซึ่งทำให้กระบวนการล่าช้า จึงได้การลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ครอบคลุมระยะเวลาตั้งแต่ปัจจุบัน – ปี 2563 โดยจะมุ่งส่งเสริมให้เอสเอ็มอีเห็นความสำคัญและการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องของการจัดทำงบการเงินบัญชีเล่มเดียว โดยร่วมมือกับพันธมิตรทั้ง สถาบันวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม อุตสาหกรรมการผลิต (SMI) ภายใต้  ส.อ.ท. และสภาวิชาชีพบัญชี จัดโรดโชว์ “อยากรวย อยากรุ่ง มุ่งทำบัญชีเดียว” ซึ่งจะทำให้เอสเอ็มอีทราบต้นทุนของกิจการ กำไร-ขาดทุน สามารถประเมินการดำเนินกิจการได้ง่าย และเพิ่มโอกาสในการขอสินเชื่อกับธนาคารพาณิชย์ ลดภาระต้นทุนทางด้านดอกเบี้ยเพราะไม่ต้องหันไปพึ่งเงินกู้นอกระบบ ปัจจุบันพบว่ามีเอสเอ็มอีราว 30% เท่านั้นมีการใช้แหล่งเงินทุนในระบบ

นางพิกุล กล่าวว่า ได้เริ่มปล่อยสินเชื่อเอสเอ็มอีบัญชีเดียวไปแล้ว 2 พันล้านบาท และจากการร่วมมือ กับส.อ.ท. ตั้งเป้าหมายที่จะปล่อยสินเชื่อเพิ่มอีก 6 พันล้านบาท รวมเป็น 8 พันล้านบาทในปีนี้ โดยเอสเอ็มอีที่ยื่นหลักฐานการขอสินเชื่อด้วยบัญชีเดียวสำหรับสินเชื่อแบบมีหลักประกัน จะได้อัตราดอกเบี้ย 5% เป็นระยะเวลา 2 ปี วงเงินสินเชื่อ 5-50 ล้านบาทและธนาคารได้ออกแคมเปญพิเศษสินเชื่อแบบไม่มีหลักประกัน ให้อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อรายย่อย(MRR)+2% แต่ขึ้นอยู่กับการพิจรณาเ้านความเสี่ยง ทั้งนี้ กรณีที่สมัครใช้งานแอพลิเคชั่นทำบัญชีร่วมกับพาร์ทเนอร์ของธนาคาร จะลดอัตราดอกเบี้ยให้สูงสุด 0.5% และธนาคารเตรียมจะเปิดตัวแอพลิเคชั่นสำหรับธุรกิจใหม่ หรือ Business Anywhere ซึ่งเอสเอ็มอีที่ใช้บัญชีเดียวจะได้รับฟรีค่าธรรมเนียมการใช้บริการ 1 ปี จากปกติปีละ 3,000 บาท ทั้งนี้ ประเมินว่าการที่เอสเอ็มอีใช้บัญชีเล่มเดียวในการขอสินเชื่อจะทำให้คุณภาพสินเชื่อปรับดีขึ้นและแนวโน้มหนี้เสียลดลงในอนาคต

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) กล่าวว่า วางแผนจะมีการโรดโชว์ให้ความรู้แก่เอสเอ็มอีทั้งที่เป็นสมาชิกของ ส.อ.ท. กว่าหมื่นรายและเอสเอ็มอีที่สนใจ ครอบคลุม 4 ภูมิภาค ทั้ง ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น นนทบุรี นครสวรรค์ สมุทรปราการ ตรัง มุกดาหาร ฉะเชิงเทรา และกรุงเทพฯ เป็นต้น ในกลุ่มอุตสาหกรรมคลัสเตอร์ต่างๆ เช่น กลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร กลุ่มอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม กลุ่มอุตสาหกรรมชิ้นส่วนและอะไหล่ยานยนต์ กลุ่มอุตสาหกรรมสุขภาพและความงาม เป็นต้น 

Advertisement

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image