จีพีเอสซีโต้ ‘กรณ์’ ฮุบโกลว์เพื่อซื้อทรัพย์สินกลับคืนประเทศไทย

นายสุรงค์ บูลกุล ประธานกรรมการ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือจีพีเอสซี เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเข้าซื้อหุ้นกิจการผลิตไฟฟ้าของบริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) ในส่วนที่บริษัท เอ็นจี โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) ถือหุ้นอยู่ 69% ว่า ประเด็นการซื้อหุ้น (ดีล) ดังกล่าวยังคงดำเนินต่อไปเพราะเป็นการซื้อขายเชิงพาณิชย์ที่จีพีเอสซีคือบริษัทเอกชนในตลาดหลักทรัพย์และบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นกว่า 20% เท่านั้น จึงไม่ใช่รัฐวิสาหกิจ การซื้อหุ้นดังกล่าวจึงสามารถทำได้ ส่วนประเด็นที่มีการยื่นเรื่องร้องเรียนไปยังคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) นั้น ขณะนี้ต้องรอข้อสรุปจาก กกพ.ชุดใหม่ ที่มีอำนาจพิจารณาว่าการซื้อหุ้นครั้งนี้ดำเนินการได้หรือไม่ โดยตามกรอบเวลาตรวจสอบ 90 วัน จะพิจารณาเสร็จสิ้นวันที่ 27 กันยายน และสามารถต่ออายุได้อีก 15 วัน

“กรณีมีกลุ่มบริษัทในมาบตาพุดยื่นเรื่องให้ กกพ.ตรวจสอบดีลนี้ หลังทราบเรื่องจีพีเอสซีได้เดินสายชี้แจงแล้วหลายบริษัท และมีแนวโน้มที่จะทำข้อตกลงความร่วมมือ (เอ็มโอยู) เพื่อสร้างความมั่นใจว่าการซื้อดังกล่าวจะคงสัญญาซื้อขายไฟฉบับเดิม ราคาตามสัญญา จะไม่มีการเปิดเผยความลับลูกค้า เพราะเป็นความผิด และเป็นเรื่องมารยาท ตรงกันข้ามการถือครองกำลังผลิตดังกล่าวอาจไม่มีลูกค้าซื้อเพราะผู้ผลิตรายอื่นก็มีการแข่งขันเพื่อดึงลูกค้าเช่นกัน โดยปัจจุบันกลุ่มลูกค้ารายเดิมมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าเฉลี่ย 10 ปีขึ้นไป ทั้งนี้ วันที่ 18 กันยายน จะมีการหารือกับนายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือเอสซีจี เพื่อทำความเข้าใจ และวันที่ 21 กันยายน จะหากับบริษัท ดาวเคมิคอล ประเทศไทย ด้วยเช่นกัน” นายสุรงค์กล่าว

นายสุรงค์กล่าวว่า ประเด็นที่นายกรณ์ จาติกวณิช ประธานกรรมการนโยบายพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยื่นเรื่องให้หลายหน่วยงานตรวจสอบนั้น หากต้องการหารือกับจีพีเอสซีก็พร้อมเช่นกัน ขณะนี้ยังไม่มีการติดต่อเข้ามา อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่ามีความเป็นห่วงจะถูกโยงเป็นประเด็นทางการเมืองเช่นกัน ทั้งนี้ ประเด็นที่มีการระบุว่าการซื้อหุ้นครั้งนี้จะเปิดให้ต่างชาติขนเงินกลับประเทศแสนล้านบาทนั้น ไม่ใช่แน่นอน อยากให้มองว่าดีลนี้จีพีเอสซีซื้อทรัพย์สินกลับมาให้คนไทย และเงินปันผลปีละ 5,000 ล้านบาท ก็อยู่ในประเทศ ส่วนประเด็นที่นายกรณ์ระบุว่าดีลดังกล่าวขัดกับรัฐธรรมนูญมาตรา 75 นั้นก็ต้องรอดูว่าการพิจารณาของหน่วยงานต่างๆ จะเป็นอย่างไร แต่ขณะนี้จีพีเอสซีจะเดินตามสัญญา โดยจะยึดมติของ กกพ.เป็นหลัก

สำหรับประเด็นผูกขาดไม่มีแน่นอน เพราะปัจจุบันจีพีเอสซีมีกำลังผลิตไฟฟ้ารวมทั้งในและต่างประเทศอยู่ที่ 1,940 เมกะวัตต์ เมื่อซื้อหุ้นจากโกลว์แล้วจะอยู่ที่ 4,835 เมกะวัตต์ คิดเป็น 6.9% ของกำลังผลิตไฟฟ้าทั้งประเทศ จากปัจจุบันผู้ผลิตไฟฟ้าอันดับ 1 คือ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) รองลงมาคือ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ต่อมาคือ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) และรองลงมาคือ จีพีเอสซีซึ่งมีกำลังผลิตไฟฟ้าใกล้เคียงกับบริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือเอ็กโก ส่วนประเด็นที่ระบุว่าดีลนี้จะทำให้จีพีเอสซีมีสัดส่วนผลิตไฟฟ้าในมาบตาพุดเป็นอันดับหนึ่ง ประเด็นนี้ต้องดูตัวเลขอีกครั้งแต่ต้องเข้าใจรูปแบบการซื้อขายไฟฟ้าในพื้นที่มาบตาพุดมีทั้งซื้อเข้าและขายออก จึงต้องพิจารณาตัวเลขอีกครั้งลุ้น กกพ.ชุดใหม่เคาะดีลซื้อโกลว์ หารือเอ็มดีเอสซีจี-ดาวพร้อมเอ็มโอยูลูกค้ามาบตาพุดรับปากสัญญาเดิม พร้อมหารือ “กรณ์” ลั่นซื้อทรัพย์สินกลับไทย

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image