ลุ้นอีกวัน ‘พายุมังคุด’ เคลื่อนไทย 3 เขื่อนใหญ่ กฟผ.พร้อมรับมือ

นายณัฐวุฒิ แจ่มแจ้ง ผู้ช่วยผู้ว่าการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวกรณีอิทธิพลของพายุดีเปรสชั่นมังคุด (Mangkhut) ที่ปกคลุมบริเวณมณฑลยูนนาน ประเทศจีน ว่า ขณะนี้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง โดยเมื่อวันที่ 18 กันยายน ต่อเนื่องวันที่ 19 กันยายน มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยยังมีกำลังแรง ทำให้บริเวณพื้นที่รับลมมรสุมด้านตะวันตกของภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง โดยเขื่อนวชิราลงกรณมีปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำเพิ่มขึ้น และพื้นที่เหนือเขื่อนรัชชประภามีฝนตกเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีฝนตกหนัก ส่งผลให้มีปริมาณน้ำในอ่างเก็บของเขื่อนอุบลรัตน์เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม กฟผ.ได้ทำการพร่องน้ำไว้แล้วตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคม ทำให้เขื่อนต่างๆ มีความพร้อมที่จะรองรับปริมาณน้ำที่จะเข้ามาในช่วงฤดูมรสุมนี้

สำหรับภาคตะวันตกของประเทศไทย กฟผ. ติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยสถานการณ์น้ำในเขื่อนวชิราลงกรณมีปริมาณน้ำ 8,262 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 93 เกินระดับเกณฑ์ควบคุม แต่ยังรองรับน้ำได้อีก 598 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนวชิราลงกรณยังต้องระบายน้ำผ่านเครื่องกำเนิดไฟฟ้า 42 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน และระบายน้ำผ่านทางระบายน้ำล้น (Spillway) 11 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน รวมเป็น 53 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน และจะขยายเวลาการระบายน้ำในอัตรานี้ถึงวันที่ 23 กันยายน 2561 สำหรับสถานการณ์น้ำในเขื่อนศรีนครินทร์ ปริมาณน้ำ 16,306 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 92 มีระดับน้ำอยู่เกณฑ์ควบคุม สามารถรองรับน้ำได้อีก 1,439 ล้าน ลบ.ม. ขณะเดียวกันยังมีความจำเป็นต้องระบายน้ำในอ่างเพื่อรองรับปริมาณน้ำฝนที่จะเกิดจากอิทธิพลของพายุดังกล่าว โดยการระบายน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ ผ่านเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเขื่อนท่าทุ่งนา 22 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน และระบายน้ำผ่านทางระบายน้ำล้น 6 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน รวมเป็น 28 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image