พบอีกชาวไร่อ้อยโคราชถูกพิษยาฆ่าหญ้าปนเปื้อน ‘เซลล์เนื้อเยื่อผิวหนังตาย’

กรณีที่เกษตรกรหลายรายในจังหวัดนครราชสีมามีอาการป่วยจากผลกระทบของการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช ทำให้ตัวยาซึมเข้าไปที่นิ้วมือ นิ้วเท้า จนเกิดเป็นแผลแล้วกระจายเข้าสู่เส้นเลือด นิ้วมือกลายเป็นแผลเน่าเปื่อย กุดสั้นลงมีอาการเจ็บปวดตลอดเวลา ทำให้แพทย์ต้องรักษาตามอาการนั้น

เมื่อวันที่ 19 กันยายน แหล่งข่าวจากสาธารณสุขอำเภอบัวใหญ่ กล่าวว่า ตัวเลขของเกษตรกรในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการพบสารเคมีตกค้างในเลือดทำการตรวจไปแล้วกว่า 1,927 ราย เกษตรกรในพื้นที่อำเภอบัวใหญ่ที่ไม่มีความผิดปกติจากการใช้สารเคมีจำนวน 507 ราย ตรวจสอบความเสี่ยงของสารเคมีตกค้างในเลือดแล้วปลอดภัยจำนวน 375 ราย มีความเสี่ยงจำนวน 756 และอยู่ในกลุ่มเสี่ยง จำนวน 289 ราย คิดเป็นร้อยละ 15% ของจำนวนเกษตรกรที่ทำการตรวจสอบแล้ว โดยในพื้นที่อำเภอบัวใหญ่ยังมีเกษตรกรจำนวนมากที่ยึดอาชีพในการปลูกอ้อยและเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์เกษตรกรเหล่านี้ใช้สารเคมีคือยาฆ่าหญ้าในการกำจัดวัชพืชภายในไร่อ้อยของตนเอง

ล่าสุดพบ นายสมัย จรรยา บ้านโสกงูเหลือม ต.ขุนทอง อ.บัวใหญ่ เกษตรกรทำไร่อ้อยซึ่งได้รับสารเคมีมาจากการฉีดอ้อย โดยนายสมัยกล่าวว่า ตนเองทำอาชีพปลูกอ้อยมานานแล้ว เมื่อก่อนที่ยังไม่มีสารเคมีตนเองก็ต้องเข้าป่าอ้อยไปดูแลต้นอ้อยเองทุกวัน พอเริ่มมีสารเคมีเข้ามาจึงนำมาใช้ในการกำจัดวัชพืชต่างๆ เมื่อนำสารเคมีไปฉีดก็ไม่ได้มีการป้องกัน ทำให้สารเคมีมักจะเปื้อนมือหรือร่ายกายของตนเองเสมอแต่ก็ไม่ได้มีความรู้สึกว่าผิดปกติแต่อย่างใด จนเริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติที่ผิวหนังตนเอง ว่ามีจุดขาวๆ เกิดขึ้นตามร่างกาย จึงไปพบแพทย์ แพทย์บอกว่าเกิดจากการใช้สารเคมีแล้วไม่ได้มีการป้องกัน เมื่อสารเคมีซึมเข้าไปในผิวหนัง ทำให้เซลล์เนื้อเยื่อผิวหนังตาย ขาดน้ำเหลืองมาหล่อเลี้ยง เมื่อผิวหนังไม่มีการเกิดใหม่ก็จะทำให้ไม่มีความรู้สึก ตายด้านทันที และยังเกิดเป็นจุดขาวๆ อีกด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image