นายสิทธิชัย แดงประเสริฐ รองประธานกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชีวภาพ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ในฐานะประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซีดีไอพี (ประเทศไทย) จำกัด(มหาชน) หรือ CDIP ผู้วิจัยพัฒนานวัตกรรมและผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ยาสมุนไพร และยาแผนปัจจุบัน เปิดเผยว่า ขณะนี้แนวโน้มสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารดูแลรักษาสุขภาพผู้สูงอายุและคนวัยทำงานกำลังแรง โดยเฉพาะสินค้าที่ผลิตขึ้นในประเทศไทย (Made in Thailand) มีทิศทางขยายตัวอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง จากปัจจุบันที่ผู้บริโภคยังคงเน้นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้ผิวขาว ผอมและสวยแต่อาจไม่เร่งตัวมากเหมือนในช่วงที่ผ่านมา
โดยซีดีไอพี ได้ทำงานร่วมกับกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม(กสอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ในการคิดค้นนวัตกรรมต่างๆ ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าเป็นการต่อยอดงานวิจัยเชิงพาณิชย์ โดยการนำสินค้าเกษตรซึ่งเป็นวัตถุดิบที่มีอยู่ในประเทศไทยมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ยาแผนปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และยาสมุนไพร ช่วยแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำไปในตัว
“ขณะนี้กระแสคนรักสุขภาพของผู้บริโภคกำลังได้รับความนิยม ปีที่ผ่านมามีการเติบโตต่อเนื่อง ในประเทศไทยมีมูลค่าการตลาดรวม 60,000 ล้านบาท และมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่ผลิตด้วยวิธีออร์แกนิกส์จากพืชธรรมชาติและสมุนไพรไทยได้รับความสนใจเป็นพิเศษ บริษัทจึงตั้งเป้าหมายอัตราการเติบโตในปี 2561 อยู่ที่ 20% ด้วยการนำกระบวนการด้านวิจัยมาพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้มากกว่าเดิมถึง 10 เท่า”นายสิทธิชัยกล่าว
โดยปัจจุบันบริษัทได้รับจ้างวิจัยพัฒนาและผลิตสินค้าให้ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) แล้วกว่า 500 แบรนด์ รวมถึงสินค้าที่ผลิตขึ้นในนามของบริษัทเองมากกว่า 10 แบรนด์ ซึ่งในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์จะช่วยยกระดับสินค้าให้สามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้ มีส่วนช่วยให้อุตสาหกรรมโดยรวมเติบโตได้อย่างเข้มแข็ง ครอบคลุมลูกค้าในกลุ่มประเทศอาเซียน
ทั้งนี้ ภาคเอกชนต้องการให้ภาครัฐช่วยแก้ปัญหาให้ตรงจุด โดยการสนับสนุนทั้งงบประมาณ และองค์ความรู้ด้านงานวิจัยและนวัตกรรมให้มีความต่อเนื่องแม้ว่าจะมีการเปลี่ยนรัฐบาล เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจตามยุทธศาสตร์ 20 ปี ที่มีนโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรมเป้าหมายแห่งอนาคตเป็นเสาหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังได้เข้าร่วมออกบูธในงานแสดงสินค้าและการประชุมนานาชาติด้านสุขภาพ ความงามและเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครั้งที่ 5 “Beyond Beauty Asean Bangkok 2018” ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 20-22 กันยายนนี้ มีผู้เข้าร่วมแสดงสินค้ามากกว่า 850 ราย เพื่อเปิดโอกาสให้บริษัทได้พบปะกบลูกค้าโดยตรงทั้ลูกค้าชาวไทยแต่างชาติ โดยคาดหวังว่าจะเป็นการบุกตลาดเพื่อกระจายสินค้าและบริการด้านการวิจัย และนวัตกรรมสู่ตลาดต่างประเทศได้มากขึ้น คาดจะมีการเจรจาจับคู่ธุรกิจกว่าว 1,800 คู่ มีผู้เข้าร่วมชมงานกว่า 18,000 ราย และคาดจะมีเงินสะพัด 1,800 ล้านบาท
