นางกุลณี อิศดิศัย อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า เดือนสิงหาคม 2561 มีผู้ประกอบธุรกิจจัดตั้งบริษัทใหม่ 6,446 ราย ลดลง 10 % เทียบกับสิงหาคม 2560 มีทุนจดทะเบียนรวม 2.32 หมื่นล้านบาท ลดลง 51% สาเหตุที่ยอดการจดจัดตั้งลดลง เป็นผลจากฐานปีก่อนมียอดการจดทะเบียนจัดตั้งสูงขึ้นมาก เนื่องจากรัฐบาลมีมาตรการกระตุ้นให้บุคคลธรรมดาเข้ามาจดทะเบียนนิติบุคคล โดยมีมาตรการจูงใจ เช่น มาตรการลดอัตรภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับเอสเอ็มอี มาตรการภาษีสนับสนุนการจัดทำบัญชีของเอสเอ็มอี และมีการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ (เมกะโปรเจ็กต์) ทำให้เอสเอ็มอีมาจัดตั้งบริษัทเพื่อรับงานต่อ เป็นต้น
นางกุลณี กล่าวว่า ทำให้ยอดจัดตั้งธุรกิจช่วง 8 เดือน 2561 มีจำนวน 4.99 หมื่นราย เพิ่มขึ้น 2% มีทุนจดทะเบียน มูลค่า 1.92 แสนล้านบาท ลดลง 17% ด้านประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรกในเดือนส.ค. 2561 ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจภัตตาคารและร้านอาหาร
นางกุลณี กล่าวว่า ขณะที่ ยอดการจดทะเบียนธุรกิจเลิกกิจการเดือนส.ค. 2561 มีจำนวน 1,740 ราย ลดลง 1% เทียบกับส.ค. 2560 โดยมีทุนจดทะเบียนเลิกกิจการ 1.01 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 29% ส่วนยอดการจดทะเบียนเลิกกิจการช่วง 8 เดือน (ม.ค.-ส.ค.) 2561 พบว่ามีจำนวน 9,717 ราย ลดลง 1% เทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา มีทุนเลิกกิจการรวม 5.57 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% ด้านประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันนดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 163 ราย คิดเป็นสัดส่วน 9% รองลงมาคือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 103 ราย คิดเป็นสัดส่วน 6% และธุรกิจภัตตาคารและร้านอาหาร 56 ราย คิดเป็นสัดส่วน 3%
“ แนวโน้มจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจปี 2561 คาดเป็นไปตามเป้าหมายคือ 8 หมื่นราย สอดคล้องกับภาพรวมเศรษฐกิจไทยที่ขยายตัวในเกณฑ์ดี จากภาคการส่งออก รวมถึงการบริโภคภายในประเทศจากความเชื่อมั่นเศรษฐกิจของผู้บริโภค ส่วนภาคการท่องเที่ยวที่แม้จะมีเหตุปัจจัยลบมากระทบกับความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยว แต่ภาครัฐได้เร่งรณรงค์ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย และมีการจัดโปรโมชั่นต่างๆเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว คาดว่าจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวให้ฟื้นกลับมาโดยเร็ว โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี ” นางกุลณี กล่าว