นักสะสม งง! ซื้อภาพนกอินทรีย์จากนักธุรกิจอ.ถวัลย์ขายให้ อ้างคุย “ดอยทิเบศร์”สัญญาจะออกใบรับรองให้แต่เงียบ แล้วหาเป็นภาพขโมย
จากกรณีนายดอยธิเบศร์ ดัชนี อายุ 41 ปี บุตรชายและผู้ดูแลมรดกของนายถวัลย์ ดัชนี หรือ อ.ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินแห่งชาติสาขาทัศน์ศิลป์ ปี พ.ศ.2544 จิตรกร ช่างเขียนรูประดับโลก ซึ่งถึงแก่กรรมเมื่อปี 2557 ได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า มีภาพวาดของอ.ถวัลย์หายไปจำนวน 113 รูป เป็นเงินมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท ต่อมาเจ้าของแกเลอรี่แห่งหนึ่งได้ให้ปากคำกับตำรวจภาพ นกอินทรีย์ 2 รูป และ ภาพควายพื้นแดง 1 รูป ซึ่งนายดอยธิเบศร์เข้าแจ้งความเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2560 ว่าหายไปทั้ง 3 ภาพนั้น เป็นภาพที่ซื้อมาจากนักธุรกิจคนหนึ่งซึ่งนักธุรกิจคนดังกล่าวซื้อภาพกับอ.ถวัลย์ด้วยตนเอง แล้วตัวเองซื้อมาเมื่อปี 2545-2546 ซึ่งการซื้อขายภาพดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนที่อ.ถวัลย์จะเสียชีวิตลง ต่อมาเมื่อปี 2560 เจ้าของแกเลอรี่ได้ขายภาพนกอินทรีย์จำนวน 1 ภาพ ให้นายสัมพันธ์ (สงวนชื่อสกุล) นักสะสมภาพ
วันนี้ (21 ก.ย.) นายสัมพันธ์ (สงวนนามสกุล) นักสะสมภาพที่ได้ซื้อภาพนกอินทรีย์จำนวน 1 ภาพ มาจากเจ้าของร้านแกเลอรี่ ที่อ้างว่าภาพดังกล่าวมีการซื้อมาจากนักธุรกิจรายหนึ่งที่ซื้อภาพมาจาก อ.ถวัลย์ ด้วยตัวเองนั้น ได้ให้สัมภาษณ์ว่า เป็นคนชื่นชอบผลงานของ อ.ถวัลย์ ซึ่งเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2560 ได้รับการติดต่อจากเจ้าของร้านแกเลอรี่แห่งหนึ่งในศูนย์การค้า เจเจมอลล์ ซึ่งเสนอขายภาพวาดนกอินทรีย์ของ อ.ถวัลย์ ในราคา 5 แสนบาท หลังจากตกลงราคากันที่ 4.3 แสนบาท ตนจึงได้มาไว้ในครอบครอง แต่เนื่องจากภาพวาดของ อ.ถวัลย์ มีของปลอมขายเกลื่อนตามท้องตลาดอยู่มาก เพื่อที่จะตรวจสอบให้แน่ใจจึงได้ติดต่อไปยังแอดมินเพจ “Doytibet Duchanee” ซึ่งตั้งขึ้นเพื่อไว้ใช้ตรวจสอบและรับรองภาพวาดของ อ.ถวัลย์เป็นของจริงหรือไม่ โดยภายหลังทราบชื่อว่าแอดมินเพจดังกล่าวมีชื่อว่า น.ส.หนู(นามสมมุติ) ซึ่งได้อ้างว่าจะขอคำยืนยันจากนายดอยธิเบศร์โดยตรงและจะออกใบรับรองให้ โดยมีการติดต่อกันอยู่หลายครั้งผ่านแชทเฟซบุ๊ก แต่ต่อมา น.ส.หนูบอกว่าสนใจจะซื้อภาพของตนในราคา 5 แสนบาท แต่เมื่อถึงกำหนดนัดหมายก็ได้รับการบ่ายเบี่ยง และไม่สามารถติดต่อได้
นายสัมพันธ์ กล่าวต่อว่า หลังพยายามติดต่อกับน.ส.หนู ปรากฏว่าเป็นนายดอยธิเบศร์ เป็นผู้มาตอบข้อความของตนแทน ยืนยันว่าจะออกใบรับรองให้ในปี 2561 ทำให้ภาพดังกล่าวจึงอยู่กับตนมาจนถึงทุกวันนี้ และก็ยังไม่มีการออกใบรับรองใดๆทั้งสิ้น แต่มาภายหลังตนก็มาทราบว่าถูกนายดอยธิเบศร์ อ้างเป็นพยานทางคดีดังกล่าว เนื่องจากตนมีภาพวาดซึ่งได้มาจากการกระทำความผิดไว้ในครอบครอง ซึ่งตอนแรกรู้สึกตกใจมากเพราะก่อนหน้านี้ก็คุยกันมาก่อนแล้ว
นายสัมพันธ์ กล่าวอีกว่า ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงนายดอยทิเบศร์ถึงได้กล่าวหาว่าภาพดังกล่าวที่ตนครอบครองคือหนึ่งในภาพที่หายไป เพราะก่อนหน้านี้นายดอยธิเบศร์ และแอดมินเพจที่ชื่อ หนู ก็ไม่ได้บอกว่าภาพนี้ถูกขโมยซึ่งถ้าดูจากตามวันเวลาที่มีการพูดคุยกัน และลำดับเหตุการณ์ ก็น่าจะแจ้งให้ตนทราบได้ในตอนนั้น ทั้งๆที่ตนก็ถ่ายรูปส่งให้ตรวจสอบแล้วว่าเป็นของแท้หรือไม่ แต่กลับมาโดนกระทำเช่นนี้ จึงอยากมาร้องขอความเป็นธรรมต่อสื่อมวลชนว่าภาพที่ตนได้รับมาเป็นภาพที่ได้มาโดยถูกต้อง และไม่ใช่ภาพที่ถูกกล่าวหาว่าโดยขโมยไปแน่นอน เพราะมีหลักฐานการพูดคุยทุกคำ
