เมื่อวันที่ 22 กันยายน ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งยืนตามศาลปกครองกลางไม่รับคำร้องของ บริษัทลาภประทาน จำกัด และบริษัททับทิมทร จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของโรงแรมดิเอทัส บางกอก ที่เป็นการอาคารสูง 24 ชั้น และเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ ดิ เอทัส เรสซิเดนซ์ 18 ชั้น ในซอยร่วมฤดี ที่ยื่นฟ้องคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 ผู้อำนวยการเขตปทุมวัน และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ต่อศาลปกครองว่า มีคำสั่งระงับการพิจารณาคำร้องของอุทธรณ์ของบริษัทลาภประทาน จำกัด และบริษัททับทิมทร จำกัด ที่คัดค้านคำสั่งควบคุมอาคารโรงแรมดิเอทัส บางกอก และเซอร์ วิสอพาร์ตเมนต์ ดิ เอทัส เรสซิเดนซ์ รวมทั้งไม่ใช้อำนาจที่มีรักษาเรียกคืนเขตทางสาธารณประโยชน์จนถนนซอยร่วมฤดีมีลักษณะทางกายภาพกว้างไม่ถึง 10เมตร และเป็นเหตุให้ ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้ กทม.และผอ.เขตปทุมวัน ใช้อำนาจตามตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 สั่งรื้อถอน โรงแรมดิเอทัส บางกอก และเซอร์ วิสอพาร์ตเมนต์ ดิ เอทัส เรสซิเดนซ์
ทั้งนี้ ศาลปกครองสูงสุดให้เหตุผลว่า การทำหน้าที่ของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 ผู้อำนวยการเขตปทุมวัน และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นการบังคับคดีให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลในชั้นบังคับคดี มิใช่เป็นเรื่องการทำคำสั่งทางปกครองตามอำนาจหน้าที่ของ ผู้อำนวยการเขตปทุมวัน และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หรือการพิจารณาวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 แต่อย่างใด ศาลจึงไม่อาจรับคำฟ้องของบริษัทลาภประทาน จำกัด และบริษัททับทิมทร จำกัด ตามข้อหานี้ไว้พิจารณาเป็นคดีใหม่ได้ การที่ศาลปกครองกลางมีคำสั่งไม่รับข้อหาไว้พิจารณาจึงชอบแล้ว ศาลปกครองสูงสุดเห็นพ้องด้วย
ทั้งนี้โครงการดังกล่าวถูกฟ้องร้อง ผิดกฎหมายอาคารเนื่องจากสร้างอาคารสูงและใหญ่เกินกว่ากฎหมายอนุญาต