‘กลุ่มเพื่อนหมอวรงค์’เดินหน้าดันเพื่อนนั่ง ‘หัวหน้า ปชป.’ มี“วิรัตน์-สมบัติ-ศุภชัย” ก็เอาด้วย

‘กลุ่มเพื่อนหมอวรงค์’เดินหน้าดันเพื่อนนั่ง ‘หัวหน้า ปชป.’ มี“วิรัตน์-สมบัติ-ศุภชัย” ก็เอาด้วย ขณะที่ ‘ศุภชัย’ เผยความสัมพันธ์ ‘วรงค์’ เป็นเพื่อนกันมานานต้องช่วยเพื่อน ด้าน ‘สมบัติ’ เชื่อ ‘หมอโก๋’ ขายได้เหตุผลงานปราบโกงเข้าตาปชช.

เมื่อวันที่ 25 กันยายน นายถาวร เสนเนียม อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) เปิดเผยถึงเรื่อง “กลุ่มเพื่อนหมอวรงค์” ที่จะสนับสนุนให้นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตส.ส.พิษณุโลก พรรคปชป. เป็นหัวหน้าพรรค แข่งขันกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคฯ ว่า กลุ่มเพื่อนหมอวรงค์เป็นการสร้างเครือข่าย และทำความเข้าใจเรื่องการปฏิรูปพรรคในรูปแบบของตนและนพ.วรงค์ที่เดินสายทำความเข้าใจด้วยการไปหาทุกคน ซึ่งวิธีการนี้ตนบอกได้เลยว่าอีกฝ่ายหนึ่งเขาก็ทำการล็อบบี้หนักรุนแรงไม่แพ้เรา เรียกว่าเป็นการหาเสียงโดยปกติที่จะมีการเลือกตั้ง ที่จะต้องเดินสายทำความเข้าใจกับผู้คนต่างๆ โดยผู้ที่เป็นกลุ่มเพื่อนหมอวรงค์ไม่ใช่มีแค่สมาชิกพรรค แต่ยังมีอดีตส.ส.พรรคอีกไม่น้อยที่พร้อมจะเปิดตัวและไม่เปิดตัว ซึ่งที่เห็นได้ชัดเจนคือ นายศุภชัย ศรีหล้า อดีตส.ส.อุบลรธานี, นายสมบัติ ยะสินธุ์ อดีตส.ส.แม่ฮ่องสอน, นายวิรัตน์ กัลยาศิริ, นายเจือ ราชสีห์, นายชัยวุฒิ ผ่องแผ้ว, พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ เรียกได้ว่าอดีตส.ส.สงขลาทั้งหมด ยกเว้นนายศิริโชค โสภา เพียงคนเดียว

“พวกเรากลุ่มเพื่อนหมอวรงค์ มีเจตนารวมตัวกันโดยอยู่บนพื้นฐานที่อยากเห็นพรรคประชาธิปัตย์ก้าวเดินไปข้างหน้า อยากเห็นพรรคเป็นพรรคของประชาชนอย่างแท้จริงในสนามการเลือกตั้ง ทุกคนที่มารวมตัวกันสนับสนุนหมอวรงค์นี้ทั้งที่เปิดตัวและไม่เปิดตัวเป็นคนที่มีประสบการณ์ทางการเมืองทั้งนั้น” นายถาวร กล่าว

ด้านนายศุภชัย กล่าวว่า ตนเป็นเพื่อนกับนพ.วรงค์มานานก็ต้องสนับสนุนเพื่อน เชื่อว่านพ.วรงค์เป็นมีศักยภาพ ซึ่งตนช่วยเต็มที่เพราะเพื่อนต้องช่วยเพื่อน เขาจะทำอะไรเราต้องเอาด้วย แต่ไม่ใช่ว่าหัวหน้าพรรคคนเก่าไม่ดี ท่านก็ดี ตนเคารพจากใจ แต่ทุกคนก็อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงโดย 1.เปลี่ยนแปลงรูปแบบการบริหารงาน และ2.เปลี่ยนผู้นำ ซึ่งหากนายอภิสิทธิ์ได้เป็นหัวหน้าพรรคต่อก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการบริหารงาน เมื่อถามว่ามั่นใจหรือไม่ว่าเพื่อนคนนี้จะชนะเป็นหัวหน้าพรรคได้ นายศุภชัยกล่าวว่า อยู่ที่ประชาชน และการช่วยรณรงค์หาเสียงก็พูดอะไรตอนนี้มากไม่ได้ต้องค่อยๆปล่อยมาทีละเล็กละน้อย ซึ่งเป็นเรื่องของการแข่งขันที่จะทำให้ประชาชนเห็นว่าพรรคปชป.เป็นต้นแบบของความเป็นประชาธิปไตย

Advertisement

ด้านนายสมบัติ กล่าวว่า ตนคือหนึ่งในกลุ่ม “เพื่อนหมอวรงค์” โดยมีความคิดอยากเปลี่ยนแปลงพรรคปชป. โดยเราจะสนับสนุนนพ.วรงค์ ลงสมัครชิงหัวหน้าพรรค เพราะเขามีความเหมาะสม และขายได้ เนื่องจากผลสำรวจความคิดเห็นของแต่ละสำนักแต่ละครั้งที่ออกมาพบว่า ประชาชนต้องการเห็นการปราบปรามการทุจริต ซึ่งนพ.วรงค์มีผลงานเด่นชัดในด้านดังกล่าว โดยเฉพาะกับการปราบปรามโครงการทุจริตจำนำข้าว จึงคิดว่าพรรคปชป.ต้องขายภาพลักษณ์แบบนี้ อย่างไรก็ตาม พวกเรา 4-5 คน มีแนวคิดนี้มาเป็นปีตั้งแต่เดือนธันวาคม 2561 ซึ่งเราก็พานพ.วรงค์ไปพบกับสาขาพรรคทั้งในภาคเหนือและภาคอีสานแล้ว ทั้งนี้ เมื่อกลุ่มเรามีแนวคิดจะส่งนพ.วรงค์ชิงหัวหน้า เราได้แจ้งให้ผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรคทราบ ทั้งนายชวน หลีกภัย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน นายจุติ ไกรฤกษ์

“พรรคเพื่อไทย(พท.)พยายามดันให้ ปชป.เป็นฝั่งเผด็จการและทหาร แต่หากเราให้สมาชิกพรรคทั้งประเทศมีส่วนร่วมเลือกหัวหน้าพรรค ก็ลองคิดด่าพรรคไหนเป็นประชาธิปไตยมากกว่ากัน ไม่ใช่ให้ใครคนใดคนหนึ่งชี้ แม้แต่พรรคอนาคตใหม่ยังรู้ว่าใครเป็นหัวหน้าพรรค แต่สำหรับพรรคเรา มีใครตอบได้ว่าหัวหน้าคนต่อไปคือใคร ดังนั้นเราจะไปขอสมาชิกทุกจังหวัดที่เรามีส.ส. ถ้ามีอุดมการณ์เดียวกัน คิดจะพัฒนาพรรคในแบบที่คิดไว้ ก็ขอให้มาร่วมอุดมการณ์ เราจะขายไอเดียนี้ ส่วนกระแสข่าวต่างๆที่เกิดขึ้นในพรรคประชาธิปัตย์อยู่ในขณะนี้ มีบางคนเสียผลประโยชน์ และอยากได้เป็นส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ในอันดับที่ดีๆจึงออกมาปล่อยข่าวต่างๆนานา ซึ่งผมคิดว่าเป็นสีสันช่วงเลือกตั้ง” นายสมบัติ กล่าว

ขณะที่นายวิรัตน์ กล่าวปฏิเสธขอไม่ให้สัมภาษณ์ในประเด็นดังกล่าว แต่ขอทำหน้าที่ของตนในพรรควันนี้ในฐานะที่มีนายอภิสิทธ์ เป็นเป็นหัวหน้าพรรคให้ดีที่สุด เพราะที่ผ่านมาตนก็ทำงานให้พรรคอย่างเต็มที่ไม่ว่าจะเรื่องกฎหมาย หรือสำนวนคดีฟ้องร้องใดๆก็ตาม

Advertisement

รายงานข่าวแจ้งว่า ในสมาชิก“กลุ่มเพื่อนหมอวรงค์”ที่พร้อมเปิดตัวและไม่พร้อมเปิดตัวออกสื่อ มีสาเหตุที่สนับสนุนนพ.วรงค์ตรงกัน เพราะว่าที่ผ่านมานายอภิสิทธิ์ ทำงานไม่ค่อยเข้าตาอดีตส.ส.กลุ่มนี้ จนสร้างความอึดอัดในใจมานาน รวมทั้งเรื่องผลแพ้ชนะเลือกตั้ง แต่ทุกคนต่างไม่พูด ไม่แสดงเจตนาด้วยเหตุผลเดียวกันคือ คนในพรรคปชป.ต่างเกรงใจในตัวนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคฯทั้งนั้น เพราะนายอภิสิทธิ์เป็นคนของนายชวน นอกจากนี้อดีตส.ส.กลุ่มนี้ยังมองว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาคณะกรรมการบริหารพรรคชุดนี้ทำงานไม่ค่อยเวิร์คเท่าที่ควร โดยเฉพาะคณะทำงานทางภาคใต้หรือคนที่เป็นคนของนายชวน แต่ไม่มีใครกล้าออกมาพูดเพราะเกรงใจนายชวน ซึ่งวันนี้เมื่อมีโอกาสแล้วอดีตส.ส.กลุ่มนี้ก็ต้องเปิดช่องให้ตนเองมีทางเลือกใหม่เพื่อพรรคปชป.จะได้ปฏิรูปอย่างแท้จริง

//////////////////

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image