สําหรับปีนี้เป็นปีทองของธุรกิจรถยนต์อีกปีหนึ่ง เพราะตลาดขยายตัวค่อนข้างดี มีการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ออกมา รวมทั้งผู้บริโภคที่เคยซื้อรถยนต์ในช่วง 5-6 ปีก่อน อาจจะมีการเปลี่ยนรถใหม่ สำหรับคนที่ต้องการซื้อรถยนต์ควรจะเลือกเช่าซื้อรถยนต์หรืออัตราดอกเบี้ยแบบใดนั้น มันนี่ทิปมีคำแนะนำจากศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน (ศคง.) มาฝากกันค่ะ
การเช่าซื้อรถยนต์ ผู้เช่าซื้อจะต้องชำระเงินเป็นงวดๆ ตามจำนวนเงินและระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งมีผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อทั้งธนาคารพาณิชย์ หรือสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร (นอนแบงก์) ซึ่งแต่ละแห่งก็จะมีการนำเสนอผลิตภัณฑ์หลากหลาย จูงใจผู้บริโภค ซึ่งการใช้เงินดาวน์น้อยก็เป็นการจูงใจรูปแบบหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเงินดาวน์ 0% เพราะไม่ต้องเตรียมเงินหรือมีเงินเก็บก้อนที่จะซื้อรถ
อย่างไรก็ดี ควรจะมีการเปรียบเทียบ เพราะแม้ว่าไม่ได้จ่ายเงินดาวน์ แต่หากพิจารณาวงเงินรวมที่ต้องจ่ายทั้งหมดจะพบว่าการไม่วางเงินดาวน์จะต้องเสียเงินรวมในการผ่อนรถมากกว่าการวางเงินดาวน์
ยกตัวอย่าง กรณีที่ซื้อรถคันละ 555,000 บาท หากซื้อเงินสดก็จ่ายที่ราคาเพียง 555,000 บาทเท่านั้น ขณะที่หากวางเงินดาวน์ 20% หรือ 111,000 บาท เหลือเงินที่จะต้องผ่อนอีก 444,000 บาท ระยะเวลาผ่อน 5 ปี จะมีดอกเบี้ยที่ต้องจ่าย 47,460 บาท รวมราคาค่ารถที่ต้องจ่ายเป็น 602,460 บาท แต่หากดาวน์ 0% ระยะเวลาผ่อน 5 ปีเท่ากัน จะต้องมีดอกเบี้ยที่ต้องจ่าย 92,400 บาท รวมราคาค่ารถที่ต้องจ่ายเป็น 647,400 บาท
นอกจากการดาวน์แล้ว ยังมีเรื่องอัตราดอกเบี้ย ซึ่งสิ่งสำคัญคือ อย่าติดกับดักจ่ายน้อยๆ แต่นานๆ เพราะการเพิ่มเงินผ่อนต่อเดือนอีกเล็กน้อย โดยไม่กระทบกับค่าใช้จ่ายที่จำเป็นและการออมเผื่อฉุกเฉิน จะช่วยให้ประหยัดดอกเบี้ยและปลดหนี้ได้เร็วขึ้นนะคะ
สำหรับใครที่กำลังเลือกซื้อรถยนต์อยู่ เรื่องที่สำคัญที่สุดคือ การเลือกให้ตรงกับการใช้งานและสอดคล้องกับงบประมาณที่มีอยู่ ไม่อย่างนั้นภาระผ่อนที่มากเกินไปจะมากระทบภาระการเงินของเราในอนาคตได้
กระปุกหมู
