เมื่อเวลา 11.45 น. วันที่ 3 ตุลาคม ที่อาคารกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้เรียกประชุมเพื่อแถลงแผนนโยบายการปฏิบัติงานแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้กับหน่วยงานด้านความมั่นคง ทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายตำรวจ ทหาร และปกครองในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมี พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 (ผบช.ภ.9) นายวีรนันท์ เพ็งจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายอำเภอ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธร และหัวหน้าหน่วยกองกำลังทหารในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง
พล.ท.พรศักดิ์ หรือ “บิ๊กเดฟ” แม่ทัพภาคที่ 4 เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ในส่วนของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภ.4 สน.) จะใช้กรอบนโยบายยุทธศาสตร์ความมั่นคงของชาติ 20 ปี และยึดหลักของ กอ.รมน. คือ ความมั่นคง โดยมียุทธศาสตร์ร่วมของพี่น้องประชาชนในการดูแลพื้นที่ให้ปลอดภัย การสร้างความเข้าใจต่อประชาชนทั้งภายใน 3 จังหวัด และจังหวัดภายนอก ประชาชนเท่าเทียมรัฐ และภาคประชาสังคมภายนอกประเทศ และภายในประเทศ เพื่อให้เข้าใจในการแก้ปัญหา ต่อไปก็จะเป็นการดำเนินการตามนโยบายการพัฒนาสามเหลี่ยมเศรษฐกิจของรัฐบาล ดูแลพื้นที่ให้ปลอดภัย รวมทั้งใช้ศาสตร์พระราชา นำไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน
“ในส่วนการสร้างความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชน จะเน้นหนักเรื่องการมีส่วนร่วมทุกส่วน รวมทั้งภาคประชาชน ที่สำคัญคือเจ้าหน้าที่รัฐที่เข้ามาทำงานในพื้นที่ต้องใช้ยุทธศาสตร์คนดี ทุกหน่วยทุกฝ่ายต้องคัดคนดีมาทำงาน จะต้องไม่สร้างเงื่อนไข เวลานี้มองว่าปัญหาหลักๆ เร่งด่วนของประชาชนคือปัญหายาเสพติด ก่อนหน้านี้ผมได้เดินสายไปพบท่านอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี และยังเดินสายพบปะพูดคุยกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทุกคนมีความเห็นพ้องกันว่าจะต้องการดำเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติด ที่ต้องทำอย่างเด็ดขาด มีหลายครอบครัวหวั่นปัญหาเรื่องยาเสพติดโดยเฉพาะยาบ้าที่เข้าใกล้ลูกหลานมากขึ้นทุกขณะ เป็นภัยร้ายแรงที่กำลังคืบคลานเข้ามา มีการประสานงานกับทางสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส.ไว้แล้ว ในการร่วมดำเนินการตรวจสอบจับกุมผู้ค้า และนำผู้เสพมาบำบัด ถือเป็นงานเร่งด่วนต้องกระทำการภายใน 3 เดือนแรก” พล.ท.พรศักดิ์กล่าว
พล.ท.พรศักดิ์กล่าวต่อว่า ประชาชนในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ต่างยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า ยาเสพติด เป็นเรื่องที่ทุกข์ร้อนที่สุด ผมมองว่าเรื่องปัญหายาเสพติดจะต้องเร่งดำเนินการแก้ไขเป็นอันดับต้นๆ เหมือนกับการแก้ปัญหาความไม่สงบที่เกิดขึ้นมา จนปัจจุบันสามารถแก้ไขไปสู่ระดับโต๊ะเจรจากันแล้ว ส่วนปัญหาอื่นๆ ก็จะดำเนินการแก้ไขควบคู่กันไป แต่ใน 3 เดือนแรกจะต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วนเรื่องปัญหายาเสพติด ถือเป็นปัญหาภัยแทรกซ้อนในมิติหนึ่งของความไม่สงบในพื้นที่
พล.ท.พรศักดิ์ยังกล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม ผมได้เดินสายไปพบกับพี่น้องประชาชนชาวไทยพุทธในพื้นที่ทั้งสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้รับฟัง พูดคุย ปัญหาหลายปัญหาก็ได้รับมา เช่น ในเรื่องของความเท่าเทียม ก็มีการชี้แจง การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ให้เน้นกฎหมายสันติวิธี ไม่ใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา โดยจะใช้กำลังที่ปฏิบัติการทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นตำรวจและทหาร ส่วนกรณีหากมีเจ้าหน้าที่เข้าไปมีส่วนร่วมในการกระทำความผิด ก็จะดำเนินการขั้นเด็ดขาดทันที
