กพอ.อนุมัติ4โครงสร้างพื้นฐานอีอีซี ลุยออกทีโออาร์ต.ค.นี้

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(กพอ.) เปิดเผยการประชุมกพอ.ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้มีมติเห็นชอบหลักการการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ 4 โครงการ และรับทราบกำหนดการออกประกาศหนังสือชี้ชวนภายใน(ทีโออาร์)เดือนตุลาคม 2561 ประกอบด้วย1.โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา และเมืองการบินภาคตะวันออก กำหนดได้เอกชนผู้ร่วมทุนกุมภาพันธ์ 2562 เปิดดำเนินการ 2566 เงินลงทุนรวม 290,000 ล้านบาท ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ 189,999 ล้านบาท จ้างงาน 15,640 ตำแหน่งต่อปี ผลตอบแทนโครงการ 193,612 ล้านบาท 2.โครงการศูนย์ซ่อมอากาศยานอู่ตะเภา กำหนดได้เอกชนผู้ร่วมทุนธันวาคม 2562 เปิดดำเนินการกลางปี 2565 เงินลงทุนรวม 10,588 ล้านบาท ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ 22,100 ล้านบาท จ้างงานเทคโนโลยีขั้นสูง ประมาณ 80,000 ล้านบาท เพิ่มรายได้จากบริการสายการบินต่างประเทศ ประมาณ 200,000 ล้านบาท ผลตอบแทนโครงการ 38,872 ล้านบาท

สำหรับ 3.โครงการท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 ได้เอกชนผู้ร่วมทุนกุมภาพันธ์ 2562 เปิดดำเนินการปลายปี 2566 เงินลงทุนโครงการท่าเรือเอฟ รวม 84,361 ล้านบาท ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ 180,000 ล้านบาท ผลตอบแทนโครงการ 76,078 ล้านบาท และอนาคตจะเปิดท่าเรืออี โดยเอกชนจะลงทุนเพิ่มอีก 29,686 ล้านบาท รัฐไม่ต้องลงทุนเพิ่มแล้ว รวมเงินลงทุนท่าเรือเอฟและอี 114,047 ล้านบาท และ 4.โครงการท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดระยะที่ 3 เพิ่มขีดความสามารถและความจุในการขนถ่ายก๊าซธรรมชาติและสินค้าเหลว กำหนดได้เอกชนผู้ร่วมทุนมกราคม 2562 เปิดดำเนินการต้นปี 2568 เงินลงทุนโครงการท่าเรือก๊าซ 47,900 ล้านบาท ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ 85,300 ล้านบาท ผลตอบแทนโครงการ 47,357 ล้านบาท และอนาคตจะเปิดท่าเรือสินค้าเหลว และพื้นที่คลังสินค้า โดยเอกชนจะลงทุนเพิ่มอีก 7,500 ล้านบาท รัฐไม่ต้องลงทุนเพิ่มแล้ว รวมเงินลงทุนทั้งหมด 55,400 ล้านบาท

นายคณิศ กล่าวว่า การเดินหน้า 4 โครงการดำเนินการ ต่อจากโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน โครงการแรกที่ได้ออกเอกสารคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนกับรัฐไปแล้ว เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2561 และกำหนดรับข้อเสนอเอกชนในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2561 โดยการลงทุนรวม 652,559 ล้านบาท ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจต่อประเทศ 819,662 ล้านบาท และผลตอบแทนทางการเงินโครงการ 559,715 ล้านบาท

Advertisement

นายคณิศ กล่าวว่า นอกจากนี้ กพอ.ยังอนุมัติแผนพัฒนาโครงการแผนปฏิบัติการการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลระยะเวลา 5 ปี ตามข้อเสนอของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในร่างแผนปฏิบัติการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลเพื่อรองรับอีอีซี

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image