ดัชนีผู้บริโภคหล่นตุ๊บรอบ 4 เดือน “น้ำมันแพง”-“นักท่องเที่ยวจีนหาย” กดดันความเชื่อมั่น

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือนกันยายน 2561 พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นมีการปรับตัวลดลงครั้งแรกในรอบ 4 เดือน นับตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา อยู่ที่ 82.3 ซึ่งมีปัจจัยมาจากราคาน้ำมันขยายตัวสูงขึ้น จำนวนนักท่องเที่ยวจีนหายไปตั้งแต่เดือนสิงหาคมจนถึงปัจจุบันที่หายไปอย่างเห็นได้ชัดเจน ส่งผลให้รายได้ของภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและธุรกิจต่อเนื่องขยายตัวน้อยกว่าที่ควรจะเป็น กระทบต่อความเชื่อมั่นหลายด้านของไทย รวมถึงราคาสินค้าเกษตรที่ยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะข้าว และยางพารา

ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจโดยรวมอยู่ที่ 69.4 จาก 70.2 ในเดือนก่อนหน้า ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสการหางานทำอยู่ที่ 77.6 จาก 78.3 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่ 100.0 จาก 101.2 ด้านปัจจัยบวกต่อเศรษฐกิจไทยคือ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) คงคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทย (จีดีพี) ปีนี้โต 4.4% และปี 2562 ที่ 4.2% โดยมองว่าเศรษฐกิจในภาพรวมยังมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะสถานการณ์ทางการเมือง ที่คาดว่าการเลือกตั้งจะทำให้ภาพรวมเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจที่คาดว่ามีแนวโน้มขยายตัวในอัตราที่ดี ขณะที่คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ 1.5% การส่งออกในเดือนสิงหาคม เติบโตเพิ่มขึ้น 6.68% และค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย

นายธนวรรธน์ กล่าวว่า สำหรับความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในปัจจุบันปรับตัวลดลงจากระดับ 57.2 มาอยู่ที่ระดับ 56.6 แสดงว่าภาวะเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันยังไม่ดีเท่าที่ควร ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในอนาคต (ในระยะ 6 เดือนข้างหน้า) ปรับตัวลดลงเช่นเดียวกัน โดยปรับตัวลดลงจากระดับ 94.6 มาอยู่ที่ระดับ 93.6 ซึ่งยังปรับตัวอยู่ใกล้เคียงระดับ 100 (ซึ่งเป็นระดับปกติ) มากขึ้น สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคยังมีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยจะปรับตัวดีขึ้นในอนาคตอันใกล้

นายธนวรรธน์ กล่าวว่า สงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนที่เริ่มรุนแรงขึ้น จากการตอบโต้เรื่องภาษีการนำเข้าสินค้าของสองประเทศ และความกังวลในการเกิดผลกระทบต่อการส่งออกไทย ส่งผลให้กำลังซื้อชะลอตัวลง ซึ่งค่าดัชนียังอยู่ในระดับต่ำกว่าปกติที่ระดับ 100 สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภค ยังมีความกังวลถึงสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมยังฟื้นตัวขึ้นไม่มากนัก อย่างไรก็ตาม การเติบโตเศรษฐกิจไทยปีนี้ตั้งไว้ที่ 4.5- 4.6% เนื่องจากยังเชื่อว่า ผลกระทบจากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนจะน้อยลง และภาครัฐเข้ามากระตุ้นนักท่องเที่ยวจีนให้กลับเข้ามาท่องเที่ยวในไทยช่วงไตรมาสสุดท้ายมากขึ้น รวมถึงกิจกรรมทางการเมืองที่มีมากขึ้น หากมีการจัดการเลือกตั้ง ซึ่งจะเป็นส่วนช่วยพยุงเศรษฐกิจไทยให้ขยายตัวมากขึ้น

Advertisement

“ดัชนีความเชื่อมั่นปรับตัวลดลงจากปัจจัยสำคัญหลายประการ ส่งผลทำให้เกิดความกังวลในเรื่องของเศรษฐกิจโลกที่จะไม่ขยายตัวเพิ่มขึ้น ทำให้ดัชนีความเหมาะสมในการใช้จ่ายลดลง ประชาชนยังไม่ต้องการใช้จ่ายในส่วน ซื้อบ้านใหม่ รถใหม่ หรือแม้แต่การท่องเที่ยว เพราะเศรษษฐกิจแม้จะฟื้นตัวแต่ก็กระจุก ไม่กระจายตัว ทำให้กระทบต่อกำลังซื้อของประชาชนทุกภาคส่วน หากสถานการณ์สงครามทางการค้าสหรัฐฯและจีนไม่คลี่คลาย คาดว่าจะส่งผลกระทบมากขึ้นอีก”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image