ไทยเครดิตลุยขยายสาขาย่อย บุกตลาดสดทั่วประเทศปล่อยกู้พ่อค้าแม่ค้า

นายวิญญู ไชยวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อย ในครือบริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจเศรษฐกิจมีทิศทางที่ขยายตัวดีขึ้นโดยภาครัฐคาดว่าอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจปี 2561 จะอยู่ที่ 4.4% โดยกำลังซื้อของผู้รายได้กลาง-สูงยังดี ขณะที่กำลังซื้อฐานรากยังทรง ๆ ตัว แต่หวังว่าภาพรวมเศรษฐกิจที่ดีขึ้นต่อเนื่องจะส่งผลต่อกำลังซื้อของฐานรากให้ดีขึ้นในระยะต่อไป สำหรับแผนธุรกิจของธนาคารจะจับกลุ่มลูกค้าธุรกิจค้าขายรายย่อยในตลาดสดที่มีอยู่กว่า 1 หมื่นแห่งทั่วประเทศ ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้มีอยู่กว่า 1 ล้านราย เนื่องจากลูกค้ากลุ่มนี้เป็นลูกค้าที่มีศักยภาพแต่อาจจะไม่มีใครมองเห็นเพราะไม่ได้ทำงบการเงินหรือมีเครดิตที่คลุมเครือ โดยจะมีการปล่อยสินเชื่อไม่มีหลักประกันเพิ่มขึ้นผ่านการให้สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ให้กับพ่อค้าแม่ค้ารายย่อยในตลาดสดทั่วประเทศ อัตราดอกเบี้ย 36% ต่อปี และลูกค้าไมโครเอสเอ็มอีที่อยู่บริเวณใกล้ตลาดสด เช่น ร้านขายขา คลินิกขนาดเล็ก ร้านค้าปลีก เป็นต้น อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยประมาณ 10% ต่อปี ซึ่งลูกค้าทั้งสองกลุ่มนี้มีความต้องการเงินทุนในการดำเนินธุรกิจ

นายรอย ออกุสตินัส กุนารา กรรมการผู้จัดการธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อย กล่าวว่า แผนธุรกิจปี 2562 ธนาคารตั้งเป้าหมายสินเชื่อคงค้างเติบโต 15% จากปีนี้ที่คาดว่าจะสินเชื่อคงค้างราว 5 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้ ปัจจุบันสาขามี 316 สาขา แบ่งเป็นสาขาเต็มรูปแบบที่ให้บริการธุรกรรมการเงิน ให้สินเชื่อและรับเงินฝาก 21 สาขา และสาขาย่อยที่เน้นให้สินเชื่อตั้งอยู่ในพื้นที่ตลาดสด 297 สาขา โดยจะขยายเพิ่มเป็น 500 สาขา โดยเน้นสาขาย่อยที่ให้สินเชื่อตามตลาดสดเป็นหลักปัจจุบันมีธนาคารสามารถเข้าถึงตลาดสดราว 3 พันแห่งทั่วประเทศคาดว่าเข้าถึงได้ 5 พันแห่งในปี 2562 ทั้งนี้คาดว่าจะมีฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันอยู่ที่ 1.74 แสนราย แบ่งเป็นนาโนไฟแนนซ์ 1.3-1.4 แสนราย และไมโครเอสเอ็มอี 2-3 หมื่นราย ซึ่งแต่ละเดือนมีลูกค้าใหม่เข้ามาประมาณ 5-6 พันราย คาดว่าจากการขยายสาขาจะทำมีจำนวนลูกค้าใหม่เข้ามาเพิ่มขึ้นเป็น 8 พันรายถึง 1 หมื่นราย นอกจากนี้ ได้มีการลงทุนด้านดิจิทัลและเทคโนโลยีเพื่อนำบริการใหม่ๆ มาให้บริการแก่ลูกค้าซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกลูกค้ามากขึ้น

Advertisement

นายรอย กล่าวว่า สำหรับผลการดำเนินงานช่วง 9 เดือนแรก 2561 ธนาคารมีผลการดำเนินงานดีกว่าที่คาดไว้ และคาดว่าปีนี้จะมีกำไรกว่า 700 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมาที่มีกำไร 531 ล้านบาท โดยรายได้หลักมาจากรายได้ดอกเบี้ย 90% และอีก 10% เป็นรายได้ค่าธรรมเนียมและอื่นๆ ด้านหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล) อยู่ที่ประมาณ 5% โดยธนาคารมีการติดตามทวงถามหนี้โดยมีพนักงานไปเก็บทุกสัปดาห์ จากการที่ธนาคารได้ศึกษาและเข้าใจลูกค้ามากขึ้นคาดว่าจะทำให้คุณภาพสนเชื่อมีทิศทางปรับดรีขึ้นและคาดว่าในปี 2562 เอ็นพีแอลจะลดลงต่ำกว่า 5%

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image