เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)เปิดเผยถึงกรณี มีหญิงวัย 72 ปี เสียชีวิตจากการรักษาด้วยการร้อยไหมบริเวณใบหน้า ที่คลินิกเสริมความงามแห่งหนี่ง ในพื้นที่เขตวังทองหลาง ว่าได้รับรายงานจาก สน.วังทองหลาง บก.น.4 ว่า ได้รับแจ้งมีศพหญิงเสียชีวิตจากการรักษาพยาบาล ในคลินิก บริเวณ อาคารศรีวราคอนโด ชั้น 6 ศรีวราคลีนิค เเขวงพลับ เขตวังทองหลาง พล.ต.ต.ธีระพงษ์ วงษ์รัฐพิทักษ์ ผบก.น.4 พ.ต.อ.สมบัติ หงส์ทอง รอง ผบก.น.4 พ.ต.อ.สิทธิชัย ศรีโสภาเจริญรัตน์ ผกก.สน.วังทองหลาง พนักงานสอบสวน แพทย์นิติเวช ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันตรวจสถานที่เกิดเหตุ
“เมื่อมาถึงได้พบศพ นางณัฐมณ ประชาเสรี อายุ 72 ปี เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ โดยในเบื้องต้นทราบว่า ผู้เสียชีวิตมาทำการรักษาด้วยการร้อยไหมบริเวณใบหน้า จากนั้นแพทย์ผู้ทำการรักษาได้ฉีดยาชา เพื่อทำการรักษา ปรากฏว่าผู้ตายแพ้ยาและเสียชีวิต ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบสถานที่ตั้งคลินิกที่ทำการรักษา ของ นายแพทย์ธนพล ทองประเสริฐ โดยได้นำใบอนุญาต สาขาเวชกรรม มาแสดงต่อพนักงานสอบสวน จากนั้นได้ทำการชันสูตรพลิกศพ และทำการสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุการตายที่แท้จริง รวมทั้งรวบรวมพยานหลักฐาน ถ่ายภาพ สอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องประกอบสำนวนการสอบสวนตามกฎหมายต่อไป” พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าว
รอง โฆษก ตร. กล่าวต่อว่า พนักงานสอบสวน สอบปากคำพยานและรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง และคงต้องรอผลการชันสูตรพลิกศพจากแพทย์ และผลการตรวจจากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัด มาประกอบสำนวนการสอบสวน
“และขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนหรือผู้ใช้บริการในลักษณะนี้ให้ตรวจสอบความถูกต้องและความน่าเชื่อถือ รวมทั้งความชำนาญเฉพาะทางและการรับรองจากสถาบันทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้อง ก่อนจะเข้าไปรับบริการ พร้อมกันนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กำชับให้พนักงานสอบให้ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานและสอบสวน ด้วยความรอบครอบ รวดเร็ว เป็นธรรม อาศัยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชน”รองโฆษกตร.กล่าว
ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่า ผู้เสียชีวิต เป็นชาวไทยเชื้อสายอินเดียเป็นครอบครัวนักธุรกิจร่ำรวยในประเทศไทย โดยหลังการเสียชีวิตครอบครัวลูกๆได้โพสต์ภาพข้อความแสดงความเสียใจไว้อาลัยในเฟซบุ๊ก มีกลุ่มเพื่อนและญาติเข้ามาแสดงความเสียใจและร่วมอาลัย
ขอบคุณภาพจาก ทีมโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
