ก.เกษตร จี้ผู้นำเข้ารับผิดชอบหลังพบ”ด้วงอิฐ”ติดมากับข้าวสาลีอินเดีย หวั่นศัตรูพืชระบาด

น.ส.เสริมสุข สลักเพ็ชร์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า ด่านตรวจพืชท่าเรือกรุงเทพ กรมวิชาการเกษตร ได้ตรวจพบ ด้วงอิฐ ซึ่งเป็นศัตรูพืชกักกันปนเปื้อนมากับสินค้าข้าวสาลีจำนวน 24,000 กิโลกรัม ที่นำเข้าจากประเทศอินเดีย เจ้าหน้าที่ด่านตรวจพืชท่าเรือ จึงสั่งให้เจ้าของสินค้าดำเนินการกำจัดศัตรูพืชดังกล่าว ด้วยวิธีการรมด้วยสารเมทิลโบรไมด์ และให้ส่งสินค้าที่พบปัญหากลับประเทศต้นทางทั้งหมดทันที

น.ส.เสริมสุข  กล่าวว่า ประเทศไทยและในหลายประเทศ ถือว่า ด้วงอิฐ เป็นศัตรูพืชกักกันที่สำคัญในการนำเข้า เป็นศัตรูพืชที่หากมีการติดเข้ามากับสินค้า และแพร่ระบาดในประเทศจะส่งผลกระทบรุนแรงต่อการเกษตรและเศรษฐกิจภายในประเทศ ดังนั้น เพื่อปกป้องการเกษตรในประเทศ หากมีการตรวจพบด้วงอิฐปนเปื้อน มากับสินค้าผู้นำเข้าจะต้องดำเนินการกำจัดด้วยการรมสารเมทิลโบรไมด์และส่งกลับคืนประเทศที่นำเข้ามาทันที

น.ส.เสริมสุข กล่าวต่อว่า ด้วงอิฐ มีถิ่นกำเนิดในประเทศอินเดีย ปากีสถาน เนปาล ภูฏาน และมัลดีฟท์ ถือเป็นแมลงศัตรูในโรงเก็บที่สำคัญสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงต่อเมล็ดพืช นอกจากนี้ตัวหนอนและตัวเต็มวัยยังมีความทนทานต่ออากาศที่ร้อนหรือแห้งได้เป็นเวลานาน สามารถอาศัยอยู่ในโรงเก็บได้นานนับปีโดยปราศจากอาหารและมีความต้านทานต่อการรมได้ดี ซึ่งประเทศไทยนำเข้าข้าวสาลีจากออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา ยูเครน และอินเดีย ในปี 2560 มีการนำเข้าข้าวสาลีรวม 838 ชิปเม้นท์ จำนวนกว่า 2,724 ล้านกิโลกรัม มูลค่า 21,216 ล้านบาท ส่วน 9 เดือนแรกปี 2561 นำเข้าข้าวสาลีรวม 590 ชิปเม้นท์ ปริมาณ 2,349 ล้านกิโลกรัม มูลค่า 20,368 ล้านบาท

Advertisement

“ การนำเข้าข้าวสาลีจากต่างประเทศ นอกจากจะกำหนดเงื่อนไขต้องมีใบรับรองปลอดศัตรูพืชแนบมากับสินค้าแล้ว ยังได้สั่งการให้ด่านตรวจพืชทุกด่านของกรมวิชาการเกษตรเฝ้าระวังและเข้มงวดในการสุ่มตรวจสินค้าธัญพืชที่นำเข้าจากประเทศต่างๆ โดยเฉพาะประเทศที่มีด้วงอิฐระบาดภายในประเทศ โดยการสุ่มตรวจของเจ้าหน้าที่เป็นไปตามแนวทางสากลที่ทุกประเทศปฏิบัติ เพราะหากมีศัตรูพืชกักกันที่ไม่เคยปรากฏในประเทศไทยปนเปื้อนมากับสินค้าจะสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงต่อการเกษตร และเศรษฐกิจของประเทศ” น.ส.เสริมสุข กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image