จากกรณีหญิงวัย 72 ปี เสียชีวิตขณะเข้าไปทำร้อยไหม ที่คลินิกเสริมความงาม แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ เมื่อค่ำวันที่ 11 ตุลาคม ที่ผ่านมานั้น
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 12 ตุลาคม ที่ สน.วังทองหลาง พล.ต.ต.ธีระพงษ์ วงรัฐพิทักษ์ ผบก.น.4 พ.ต.อ.สิทธิชัย ศรีโสภาเจริญรัตน์ ผกก.สน.วังทองหลาง พ.ต.ท.เชาวฤทธิ์ เงินฉลาด รองผกก.(สอบสวน) และชุดพนักงานสอบสวน ร่วมประชุมถึงกรณีการเสียชีวิตของผู้ใช้บริการร้อยไหมภายในคลินิกเสริมความงาม
พล.ต.ต.ธีระพงษ์ กล่าวว่าหลังเกิดเหตุตำรวจ สน.วังทองหลาง ได้ไปตรวจสอบคลินิกที่เกิดเหตุ โดยสอบสวนนายแพทย์ และทีมแพทย์ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง รวมไปถึงตรวจสอบผลิตภัณฑ์ยาที่ใช้ เบื้องต้นพบว่าแพทย์มีใบประกอบวิชาชีพอย่างถูกต้อง แต่ในส่วนของคลินิกยังไม่ได้ขออนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล
พล.ต.ต.ธีระพงษ์ กล่าวต่อว่าจากการสอบสวนแพทย์ให้การว่าปกติผู้ป่วยเข้ามาที่คลินิกแห่งนี้ ครั้งนี้มาทำหน้า ร้อยไหม และฉีดโบท็อกซ์ ในวันเกิดเหตุผู้เสียชีวิตได้เดินทางมาที่คลินิกตั้งแต่เวลา 16.00น. หลังจากนั้นทีมแพทย์ได้ทำตามขั้นตอนคือใส่ยาชาแบบแปะที่ใบหน้าทิ้งไว้ 30 นาที จากนั้นจึงฉีดยาชาแบบเข็ม ฉีดเข็มละ 0.5 ซีซี ทั้งหมด 24 เข็ม ระหว่างที่รอให้ยาชาออกฤทธิ์ ผู้ช่วยพยาบาลแจ้งว่าคนไข้หมดสติ ความดันตก และริมฝีปากเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเขียว แต่ยังหายใจอยู่ ทางแพทย์จึงทำการปั๊มหัวใจเป็นระยะเวลาหนึ่งแต่ไม่ดีขึ้นจึงเรียกกู้ชีพมาช่วยเหลือแต่ไม่ทันเสียชีวิตเสียก่อน
ด้าน พ.ต.อ.สิทธิชัย กล่าวว่า ปกติทางผู้เสียชีวิตใช้บริการคลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่งมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2555 ส่วนเหตุการณ์เมื่อวานนี้ผู้เสียชีวิตมาร้อยไหมเป็นครั้งแรก ซึ่งสถานพยาบาลแห่งนี้เพิ่งเปิดได้ 3 วัน แต่ทางผู้เสียชีวิตกับแพทย์มีความสนิทสนมกัน อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสอบสวนผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด ในวันนี้ช่วงบ่ายจะเรียก นพ. ธนพล ทองประเสริฐ แพทย์เจ้าของคลินิกมารับทราบข้อกล่าวหา “ประกอบสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต” มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนข้อหา “กระทำการโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย” ซึ่งเป็นคดีอาญา ในส่วนนี้ต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียดโดยการดูภาพจากกล้องวงจรปิด เพราะในข้อหานี้อาจมีคนผิดมากกว่า 1 คน ในส่วนของญาติผู้เสียชีวิตยังไม่ได้เรียกมาสอบสวนเนื่องจากนับถือศาสนาฮินดู ทางครอบครัวขอไปทำพิธีให้เรียบร้อยเสียก่อน
